วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ

การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ


การปฏิบัติการเพื่อความต่อเนื่องในการรักษาสันติภาพจะต้องได้รับการยินยอมและยอมรับจากคู่กรณีความขัดแย้ง กองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องรักษาความเป็นกลางไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อถือและการยอมรับ หลักการปฏิบัติดังกล่าวอาจขัดขวางหรือจำกัดการใช้การสนับสนุนของประเทศเจ้าบ้านและการทำสัญญาว่าจ้าง การสนับสนุนโดยหน่วยสนับสนุนการช่วยรบของกองพลตามปกติควรจะต้องถูกนำมาใช้อย่างมากที่สุดในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ การสนับสนุนจะสะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งฐานอย่างเรียบง่าย และโครงสร้างของการผสมผสานกันระหว่างการสนับสนุนของทหาร/การใช้การว่าจ้างพลเรือน

๘ - ๑๕ แผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือน

ในกองกำลังผสมนานาชาติของสหประชาชาติ และในภารกิจการสังเกตการณ์ อาจใช้การว่าจ้างพลเรือนให้รับภาระในด้านการดูแลความสะอาดของสถานที่ต่าง ๆ ภายในฐานที่ตั้งหน่วย, การซ่อมบำรุงยานพาหนะ และการสนับสนุนอื่น ๆ รวมทั้งระบบงานบริการ การสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้านอาจไม่ใช่องค์ประกอบหลัก ทั้งนี้เนื่องจากข้อพิจารณาทางด้านการเมือง ซึ่งมีผลมาจากลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ, แผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือนอาจถูกนำมาใช้มากเป็นพิเศษกว่าในภารกิจหรือปฏิบัติการใด ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากการที่มีกำลังพลจากหลายชาติ และการปฏิบัติในลักษณะที่มิใช่การสู้รบโดยตรง เรื่องนี้ไม่ควรที่จะทำให้เกิดการสับสนกับข้อตกลงการสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้าน หรือการทำสัญญาว่าจ้างบุคลากรในท้องถิ่นหรือในประเทศที่สาม วัตถุประสงค์ของแผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือนประกอบด้วย การวางแผนการใช้ลูกจ้างพลเรือน เพื่อปฏิบัติงานด้านการบริการประจำ เพื่อเสริมให้กับกำลังรบของกองทัพบก การว่าจ้างดังกล่าวอาจกระทำในลักษณะเป็นชุด หากปรากฏเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย และการปฏิบัติการในความขัดแย้งระดับต่ำนั้นเกิดขึ้นในประเทศที่เราสามารถดำเนินการทำสัญญาว่าจ้างดังกล่าวได้

¬๘ - ๑๖ การวางแผน

ในการวางแผนเพื่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ฝอ.๓ และ ฝอ.๑/ฝอ.๔ จะระบุหน่วยที่ต้องการการสนับสนุนการช่วยรบ และดำเนินการจัดหาตามความต้องการเป็นระบบครบทั้งระบบ การวางแผนจะต้องจัดให้มีเครื่องมือการขนส่งอย่างพอเพียง เพื่อให้สนองตอบหน่วยกำลังรักษาสันติภาพที่ต้องการเปลี่ยนย้ายที่ตั้งและวางกำลังอย่างรวดเร็ว หากมีความจำเป็นต้องการใช้เครื่องมือการขนส่งจำนวนมากกว่าที่มีอยู่ในอัตราการจัดหน่วยของกองกำลังรักษาสันติภาพแล้ว ก็จะต้องรีบดำเนินการจัดทำแผนและเสนอความต้องการเป็นการล่วงหน้า ก. หน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่สนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องจัดนายทหารติดต่อไว้กับ ผบ.หน่วย และฝ่ายอำนวยการของหน่วยรับการสนับสนุน การให้คำแนะนำและแนวอย่างทันเวลา จะทำให้หน่วยสามารถริเริ่มการวางแผนและเตรียมการในรายละเอียดเพื่อปฏิบัติภารกิจตามต้องการได้ หน่วยสนับสนุนกองบัญชาการระดับสูงขึ้นไป สามารถดำเนินการสนับสนุนการช่วยรบได้โดยตรงไปยังกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN

(๑) สิ่งที่เป็นหลักบางประการที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพ ได้แก่.-

• การส่งกำลังและการบริการ

• การใช้บุคคลพลเรือนในท้องถิ่น

• การใช้ถนน, สิ่งอำนวยความสะดวกทางการไปรษณีย์, สนามบิน และทางรถไฟ

(๒) การพิจารณาวางแผนจะรวมไปถึง.-

• การจัดเฉพาะกิจของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบแบบพิเศษ

• การใช้ฐานการสนับสนุนเร่งด่วนใกล้ ๆ กับที่วางกำลัง

ข. การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพ จะใช้เวลามากกว่าปกติ หากเป็นการขนส่งทางเรือ จากความจริงในข้อนี้ การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ในขั้นต้นจึงต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ระดับสะสมของชิ้นส่วนการซ่อมบำรุงและสิ่งอุปกรณ์อื่นจะต้องเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่สามารถสนับสนุนกองกำลังที่ปฏิบัติงานได้ในระยะเวลายาวนาน รายการสิ่งอุปกรณ์สำหรับสนับสนุนด้วยตนเองเป็นสิ่งที่จำเป็น ส่วนประเภทและจำนวนจะขึ้นอยู่กับประเภทของหน่วยรับการสนับสนุน

ค. กองกำลังอาจต้องพึ่งพาการทำสัญญาจัดซื้อจัดหาสิ่งอุปกรณ์ประเภทอาหารสดเช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบเลี้ยง ดังนั้นการวางแผนและการประสานงาน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดเตรียมเสบียงเสริมเพิ่มเติม การสนับสนุนด้านการตรวจสอบของสัตวแพทย์จะต้องมีการวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับรองรับกิจกรรมการจัดซื้อ นอกจากนี้อาจมีความต้องการใช้เสบียง MRE หรือเสบียงสำเร็จรูปประเภทอื่น ๆ สำหรับกำลังพลของหน่วยที่ต้องออกปฏิบัติงานการเฝ้าตรวจ เนื่องจากหน่วยรองของกองพันอาจให้การสนับสนุนกำลังพลทั้งหมดของกองกำลังรักษาสันติภาพได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณา ชนิด ประเภทและส่วนประกอบที่แน่นอนของอาหารที่ต้องจัดหาและประกอบให้กับกำลังพลที่นับถือบางศาสนา และมีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทนี้ไว้

ง. การจัดหาน้ำจะถูกรวมอยู่ในสัญญาการจัดหาทั้งหมด, ซึ่งอาจดำเนินการจากแหล่งน้ำในท้องถิ่น หรือจัดหาน้ำจากหน่วยที่ทำให้บริสุทธิ์และผลิตแจกจ่าย ผบ.หน่วยจะต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่สายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกันเพื่อทดสอบ และรับรองน้ำที่มาจากทั้งแหล่งในท้องถิ่น หรือที่ผลิตขึ้นจากระบบของหน่วยทหาร

จ. การบริการในฐานที่ตั้งสำหรับกำลังพลที่ปฏิบัติการรักษาสันติภาพ สามารถจัดรวมอยู่ในสัญญาการจัดจ้างทั่วไป ส่วนจะมีการขยายเวลาการดำเนินการต่อไปหรือเป็นการถาวรนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการปฏิบัติการการสนับสนุนด้านกิจการเก็บรักษาศพโดยทั่วไปแล้วจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า การจัดการสำหรับการบริการต่อไปนี้จะต้องถูกดำเนินการไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้พร้อมเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง :

• การอาบน้ำ

• การซักรีด

• การตัดผม

• การบริการไปรษณีย์และแลกเปลี่ยนเงินตรา

• สิ่งอำนวยความสะดวกในการพักผ่อนหย่อนใจ

• ระบบงานด้านการช่าง

• การดับเพลิง

• ช่างซ่อมเสื้อผ้า

• การบริการไฟฟ้า

ฉ. เมื่อฝ่ายเป็นกลางไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหา และคู่กรณีทั้งหมดยินยอม, ก็อาจใช้การทำสัญญาว่าจ้างการซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ทั้งแบบของทหารและแบบของพลเรือน การใช้แรงงานภายในประเทศเจ้าบ้านจะช่วยทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศนั้นเจริญเติบโต และช่วยเพิ่ม สัมพันธภาพ เมื่อแรงงานของประเทศเจ้าบ้านเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ความจำเป็นในด้านการสื่อสารด้วยภาษาและคุณวุฒิด้านการใช้ภาษาก็จะเพิ่มความสำคัญขึ้นเป็นเงาตามตัว

ช. หน่วยระดับกรมอาจต้องการรับความช่วยเหลือหน่วยสนับสนุนในอัตราของกองพลและกองทัพน้อย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในขีดความสามารถด้านการขนส่ง และให้เกิดความอ่อนตัว และความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ให้กับหน่วยที่รับการสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ควรจะพิจารณาใช้การว่าจ้างหรือจัดหาแรงงานจากในประเทศเจ้าบ้าน หรือกลุ่มประเทศที่สามให้มากที่สุด เพื่อสนองตอบความต้องการในด้านการขนส่ง หากต้องใช้ยานพาหนะของกองทัพแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดทำใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะภายในประเทศ หรือใบขับขี่ยานพาหนะสากลให้กับพลขับ นอกจากนี้ยังจะต้องมีการตรวจสอบสภาพข่ายถนนและเส้นทางก่อนที่กำลังพลเดินทางเข้าถึงประเทศนั้น ๆ ข้อมูลปัจจุบันเกี่ยวกับถนนและสะพานเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้รวมถึงเส้นหลักการส่งกำลังบำรุงทั้งที่สามารถใช้ได้ และที่จำกัดการใช้ยานพาหนะ ตัวอย่างเช่น จำกัดขนาดของรถยนต์บรรทุก, น้ำหนักของรถยนต์บรรทุก เมื่อจะใช้ถนนเหล่านั้น

ซ. การสนับสนุนทางด้านการแพทย์ของกองกำลังรักษาสันติภาพ จะดำเนินการโดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานการบริการด้านสุขภาพ นายแพทย์ของกรมจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผนงานด้านการแพทย์ทั้งหมด ส่วนการสนับสนุนด้านการแพทย์ทั้งหมดที่จะดำเนินการให้กับประเทศเจ้าบ้านนั้น ตามปกติแล้วจะเป็นไปในลักษณะจำกัด การประสานงานอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องจะช่วยป้องกันการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ มิให้เบี่ยงเบนไปจากระบบงานและวัตถุประสงค์



ตอนที่ ๔

การปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ

ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารจะดำเนินการพิจารณาลำดับขั้นตอนของการเคลื่อนย้ายและวางกำลังของหน่วยกำลังรบทางยุทธวิธี, ส่วนสนับสนุน, กำลังพลเพิ่มเติมและทดแทน และการสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์จำนวนมากในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ เช่นเดียวกันกับในการปฏิบัติการลักษณะอื่น ๆ ฝอ.๔ จะเป็นผู้ประสานงานการเคลื่อนย้ายและวางกำลังของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ ตลอดจนเป็นผู้เสนอแนะในลำดับขั้นตอนการเคลื่อนย้าย หากเกิดความไม่สมดุลขึ้นใน กองกำลัง ตามปกติแล้ว การส่งกำลังสนับสนุนโดยตรง และส่วนบริการ, ซ่อมบำรุง, สนับสนุนชิ้นส่วนซ่อม, การขนส่ง และการส่งกำลัง สป.๓ และ สป.๕ จะมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงต้นของการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ หน่วยบริการในสนามของกองพลและกองทัพน้อยจะยังไม่มีความจำเป็นในช่วงต้น แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยดังกล่าวจะต้องถูกจัดลำดับไว้แต่เนิ่น เพื่อดำเนินการจัดหาความต้องการทางกายภาพของหน่วย ความต้องการของหน่วยรับการสนับสนุนจะขึ้นอยู่กับลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการ ความคงทนของหน่วยและสภาพสิ่งแวดล้อม



๘ - ๑๗ การวางแผน

หน่วยสนับสนุนการช่วยรบของกรมไม่มีความอ่อนตัวเพียงพอที่จะดำเนินงานด้านการสนับสนุนการช่วยรบให้กับความต้องการตามแผนเผชิญเหตุได้ ส่วนสนับสนุนการช่วยรบของกองพล และกองทัพน้อย สามารถที่จะเคลื่อนย้ายเข้าไปในสภาพแวดล้อมของประเทศฝ่ายตรงข้าม พร้อมกันหรือภายหลังจากที่กำลังรบส่วนแรกได้ลงสู่พื้นแล้ว หน่วยสนับสนุนของกองพลที่ได้ถูกเลือกไว้ควรจะต้องลงสู่พื้นตามหลังหน่วยรบให้เร็วที่สุด ส่วนสนับสนุนการช่วยรบบางส่วนสามารถเข้าไปถึงภายในประเทศ หรือในประเทศที่อยู่ข้างเคียงก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายกำลังอย่างแท้จริง ส่วนต่างดังกล่าวแล้วนั้น สามารถเดินทางเข้าไปโดยทางอากาศโดยใช้เครื่องบินพาณิชย์ และเคลื่อนย้ายเข้าไปในพื้นที่ของความขัดแย้งเพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนควบคุมสนามบินให้กับกำลังส่วนใหญ่

ก. เมื่อดำเนินการพัฒนาแผนยุทธการ, ฝอ.๔ จะพิจารณาดำเนินการในเรื่องแหล่งทรัพยากรที่จะใช้สนับสนุนกองกำลังสามารถรับการส่งกำลังพลเพิ่มเติมจากภายในประเทศ หรือภายนอกประเทศ (นอกยุทธบริเวณ) หรือจากประเทศที่สาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนย้ายทางอากาศยุทธศาสตร์ หรือทางทะเลที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายกำลังและการส่งกำลังเพิ่มเติม เนื่องจากลักษณะเฉพาะของความต้องการในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ กิจกรรมในการปรนนิบัติบำรุง ซ่อมบำรุงที่สิ้นเปลืองเวลาและระบบการบริหารจัดการอาจดำเนินการภายในฐานการสนับสนุนภายในประเทศ เพื่อให้ได้ยุทโธปกรณ์ที่มีสภาพพร้อมใช้งานในภารกิจส่งกลับไปยังผู้ใช้ หากสถานการณ์ได้ขยายลุกลามจากความขัดแย้งระดับต่ำ กลายเป็นความขัดแย้งระดับปานกลางแล้ว โครงสร้างของการสนับสนุนภายในพื้นที่ปฏิบัติการก็จำเป็นต้องขยายตัวตามสถานการณ์

ข. ในระหว่างขั้นตอนของการก่อกำลัง, ฝอ.๑/ฝอ.๔ จะต้องทราบจำนวนของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่อยู่ในประเทศเจ้าบ้าน เนื่องจากหน่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันอาจเป็น ส่วนแยก, ชุด และกองร้อยที่ปฏิบัติการเป็นอิสระ เพื่อปฏิบัติการบังคับบัญชาและควบคุมให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด, ผบ.หน่วยจะต้องรวบรวมบางส่วนของกองบังคับการกรมสนับสนุนไว้ตั้งแต่เนิ่น ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้สามารถจัดส่วนย่อย ๆ ขึ้นมาโดยมีขนาดเหมาะสม และสามารถจัดโครงสร้างการบังคับบัญชาและควบคุมขึ้นได้ การจัดเตรียมนี้ควรได้มีการจัดระเบียบใหม่ตามที่ทรัพยากรและโอกาสจะเอื้ออำนวยให้ เมื่อสถานการณ์ได้พัฒนาไปแล้ว ที่บังคับการชั่วคราวก็จะกลับมาทำหน้าที่ตามบทบาทปกติ

ค. ฝอ.๑ จะต้องจัดทำ รปจ. ในการทดแทนกำลังพล รวมทั้งการประสานงานกับนายแพทย์ของกองพัน/กรม ในเรื่องนโยบายการส่งกลับสายแพทย์ ความต้องการในการทดแทนกำลังพลจะมีพื้นฐานอยู่ที่การประมาณการณ์เกี่ยวกับยอดกำลังพลที่คาดว่าจะสูญเสีย แหล่งของกำลังพลทดแทนจะต้องถูกระบุกำหนดขึ้น รวมทั้งต้องมีการกำหนดขั้นตอนกระบวนการให้กับกำลังพล ตามแผนการ ทดแทน นอกจากนี้ ยังอาจหมายรวมถึงการแจกจ่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ ณ ที่ตั้งในท้องถิ่น ซึ่งจะต้องกระทำ ณ ศูนย์การกำลังทดแทน หรือ ณ ที่ตั้งของหน่วยที่รับการทดแทน

ง. ฝอ.๔ จะจัดทำความต้องการในเรื่อง การส่งกำลัง, การบริการ และการซ่อมบำรุง โดยใช้พื้นฐานจากโครงสร้างของกองกำลัง และการประมาณการณ์ในเรื่องของความขัดแย้ง ฝอ.๔ จะต้องส่งข้อมูลนี้ให้กับผู้วางแผน เพื่อที่จะปรับปรุงพัฒนาให้ได้จำนวนสิ่งอุปกรณ์ที่จะต้องสนับสนุน และ การจัดวางการส่งกำลัง สป.๓ ทางท่อ

จ. ฝอ.๔ จะต้องตรวจสอบระบบการขนส่งจากจุดแยกไปจนถึงตำบลปลายทาง ฝอ.๔ และนายทหารกิจการพลเรือนจะต้องประสานกันในเรื่องจำนวนของสิ่งอุปกรณ์ที่สามารถรับการสนับสนุนได้จากประเทศเจ้าบ้าน หรือที่ต้องสนับสนุนให้กับประเทศเจ้าบ้านในการปฏิบัติการ

ฉ. ฝอ.๔ จะต้องพิจารณาในเรื่องระบบการสนับสนุนการช่วยรบที่เป็นภาระของกองบัญชาการหน่วยเหนือขึ้นไป ที่อยู่ในความต้องการพื้นฐาน เช่น การจัดผลิตน้ำประปา โดยพยายามจัดให้อยู่ในโครงสร้างของกองกำลัง

๘ - ๑๘ กิจที่สำคัญยิ่ง

เมื่อประเทศเจ้าบ้านที่เป็นชาติพันธมิตรร้องขอการช่วยเหลือจากกองทัพสหรัฐ ฯ ในขณะที่เกิดภัยคุกคาม แต่ยังไม่ถึงขั้นของสถานการณ์สู้รบ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบอาจถูกจัดเพิ่มเติมอยู่ในส่วนกำลังรบในการเคลื่อนย้ายกำลัง ซึ่งส่วนสนับสนุนการช่วยรบนี้จะตอบสนองความต้องการในเรื่องการสนับสนุน, หน่วยและวัสดุอุปกรณ์สำหรับส่วนกำลังรบในขณะที่เดินทางถึงตำบลปลายทาง หากได้มีการเริ่มปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบในประเทศของฝ่ายตรงข้ามแล้ว, ส่วนสนับสนุนการช่วยรบเพิ่มเติมส่วนแรกจะถูกเคลื่อนกำลังเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการในทันทีที่ยึดที่หมายได้ และได้มีการระวังป้องกันพื้นที่ฐานปฏิบัติการแล้ว การปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน การขนส่ง, งานด้านการช่าง, กาสรสารวัตร, การติดต่อสื่อสาร, การบริการสุขภาพ, การสนับสนุนด้านการเงิน และระบบการสนับสนุนด้านกำลังพลสำหรับการปฏิบัติการ จะเพิ่มความสำคัญขึ้นในขั้นนี้ กิจที่จะต้องดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงและสถาปนาขึ้น ได้แก่.-

• สิ่งอำนวยความสะดวกด้านอสังหาริมทรัพย์

• การจัดการเรื่องการขนส่งอุปกรณ์ลงจากอากาศยาน และเรือ

• ข่ายการขนส่ง

• การเลือกทำเลที่ตั้งสำหรับการสนับสนุนด้านบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่พัก

• สิ่งอำนวยความสะดวกในการรับ, เก็บรักษา และการจัดทำบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์

• การควบคุมการเคลื่อนย้ายขนส่ง

• การสื่อสารและระบบพลังงาน

• การรักษาความปลอดภัยสำหรับการสนับสนุนด้านบริการ

• น้ำดื่ม

• กำลังพลสนับสนุนการปฏิบัติการในขั้นแรก

• การซักรีดและการซ่อมแซมเสื้อผ้า

• กิจการศพ

• การดำรงชีพ

• การส่งกำลัง สป.๓ (จำนวนมาก)

• การส่งกำลัง สป.๕

• ชิ้นส่วนซ่อม

• ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนสำหรับวัตถุประสงค์ของผู้บังคับบัญชา/การประชา-สัมพันธ์

ผนวก ก

การก่อความไม่สงบในเมือง

เมืองและชุมชนมีความล่อแหลมต่อความรุนแรงของการก่อความไม่สงบในเมือง ทั้งนี้เนื่องจากเป็นจุดสำคัญของเศรษฐกิจและอำนาจรัฐ สาธารณสมบัติและสถานบริการต่างย่อมถูกรบกวนและเกิดความเสียหาย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอาจถูกมองในแง่ของการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ กองกำลังทหารของสหรัฐฯ ที่ถูกใช้ในสภาพความขัดแย้งระดับต่ำ อาจต้องเข้าปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวเมือง เพื่อให้การสนับสนุนกำลังตำรวจ หรือทหารของประเทศเจ้าบ้าน

ก – ๑ ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมของตัวเมือง

ด้วยลักษณะของชุมชนที่มีจำนวนประชากรมากในพื้นที่ที่ไม่กว้างใหญ่นัก จะเอื้ออำนวยต่อการปกปิดและซ่อนตัวของฝ่ายกบฏหรือพวกก่อความไม่สงบ แต่อย่างไรก็ตามพวกก่อความไม่สงบก็อาจได้รับการสนับสนุนเฉพาะพื้นที่บางแห่งของเมืองหรือชุมชน พวกก่อความไม่สงบในเมืองมักจะหลบซ่อนตัวอยู่ในชุมชนที่เป็นฝ่ายเดียวกัน หรือในชุมชนที่ประชากรมีความหวาดกลัวอย่างมากจนไม่อาจปฏิเสธการให้ความสนับสนุนหรือการให้ข่าวสารที่พวกก่อความไม่สงบต้องการได้ กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้นำหรือพวกก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นและอาจมีการติดต่อสื่อสารโดยใช้สตรีและเด็ก ซึ่งสามารถปกปิดการดำเนินการในด้านอื่นๆได้อีก

ก. พวกก่อความไม่สงบในเมืองสามารถปฏิบัติการได้อย่างอุกอาจมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในชนบท ด้วยยุทธวิธีและสาเหตุดังกล่าวมาแล้ว พลซุ่มยิงจะใช้การแอบซุ่มตามสถานที่ต่าง ๆ ในลักษณะตามแบบได้อย่างกว้างขวาง นอกจากหนี้วัตถุระเบิดยังอาจถูกใช้ได้ทั้งที่เป็นเครื่องมือดำเนินการต่อชุมชน หรือต่อบุคคลและกลุ่มบุคคล

ข. จำนวนประชาชนที่มีอยู่มากมาย ย่อมง่ายต่อการชุมนุมรวมตัวกัน และแสดงออกได้อย่างกว้างขวาง การปรากฏตัวของสตรีและเด็กย่อมจำกัดการปฏิบัติการของกำลังฝ่ายปราบปราม การปฏิบัติการใด ๆ ที่ขาดความยั้งคิดและความรอบคอบ อาจกลายเป็นสาเหตุหลักที่ฝ่ายก่อความไม่สงบสามารถนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้ การเผยแพร่ข่าวสารย่อมกระทำได้ง่ายในพื้นที่ตัวเมือง ทั้งนี้เพราะการรวมตัวกันและการสื่อข่าวเป็นไปได้โดยไม่มีการกีดขวางใด ๆ ความสำเร็จของกลุ่มผู้ก่อการร้ายสามารถถูกนำไปขยายผลเพื่อลดความเชื่อถือของตำรวจ, กองกำลังฝ่ายปราบปราม และรัฐบาล ทั้งย่อมมีผลต่อการป้องกันตนและการควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายก่อความไม่สงบ

ค. พวกก่อความไม่สงบในเมือง ย่อมไม่สามารถจัดตั้งฐานปฏิบัติการหรือรวมตัวกันเป็นหน่วยติดอาวุธที่มีขนาดใหญ่ได้ เหมือนกับพวกกองโจรที่อยู่ตามพื้นที่ชนบทห่างไกล ดังนั้นจึงต้องกระจายกันอยู่เป็นบุคคล หรือเป็นสมาชิกในกลุ่มเล็ก ๆ พวกก่อความไม่สงบนี้ต้องพึ่งพาอาศัยการหลบซ่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มประชาชนในเมือง และใช้การก่อการร้ายเพื่อป้องกันการเอาใจออกห่าง การปฏิบัติการเป็นบุคคลหรือกลุ่มเล็ก ๆ จะมีประสิทธิภาพมากในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เพราะง่ายต่อการหลบหลีกการจับกุม และหากถูกจับกุม ก็เป็นเพียงบุคคลสองหรือสามคนเท่านั้นที่จะถูกเปิดเผยตัวต่อฝ่ายรัฐบาล

ก – ๒ ยุทธวิธีของพวกก่อความไม่สงบ

พวกก่อความไม่สงบหรือพวกกบฏที่อยู่ในเมือง จะทำงานอย่างโดดเดี่ยวคนเดียว หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยยุทธวิธีที่แตกต่างไปจากพวกที่อยู่ในชนบทห่างไกล ยุทธวิธีดังกล่าวจะประกอบด้วย

ก. การทำลายโรงงานอุตสาหกรรมและสถานบริการของรัฐ ด้วยการโจมตีและก่อวินาศกรรม

ข. ก่อเหตุตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง เพื่ทอทำให้กองกำลังของฝ่ายปราบปรามต้องกระจายกำลังกันออกไป

ค.ก่อเหตุการณ์หรือก่อการรวมตัวของฝูงชนเพื่อหลอกล่อให้กองกำลังฝ่ายปราบปรามติดกับดัก

ง. ยั่วยุให้กองกำลังของฝ่ายปราบปรามต้องปฏิบัติการด้วยความรุนแรงเกินเหตุ ซึ่งฝ่ายกบฏสามารถนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้

จ. ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้ากับฝูงชน

ฉ. การซุ่มยิงตามจุดปิดกั้นถนน, ที่ตั้งยาม, จุดเฝ้าตรวจและทหารเป็นบุคคล

ช. โจมตียานพาหนะและอาคารด้วยการยิงจรวดและเครื่องยิงลูกระเบิด

ซ. การวางระเบิดต่อเป้าหมายเฉพาะบางแห่ง หรือเป็นแห่ง ๆ เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหาย และทำลายขวัญของประชาชน

ด. ซุ่มโจมตีชุดลาดตระเวน และยิงเฮลิคอปเตอร์

ก – ๓ การปฏิบัติการ

การปฏิบัติการต่อพวกก่อความไม่สงบในเมือง อาจะเป็นได้ทั้งมาตรการเชิงรับและเชิงรุก มาตรการเชิงรับจะใช้เพื่อลดการปฏิบัติการก่อการร้าย โดยวิถีชีวิตของประชาชนยังสามารถดำเนินไปได้ (แต่มีการจำกัดลงบ้าง) มาตรการเชิงรุกจะประกอบด้วย การใช้กำลังของฝ่ายปราบปรามออกตรวจค้นและจับกุม หรือสังหารฝ่ายก่อความไม่สงบ ระดับของความขัดแย้งซึ่งจะต้องใช้ปฏิบัติการตอบโต้จะดำเนินการพิจารณาโดยฝ่ายรัฐบาล การต่อสู้กับพวกก่อความไม่สงบในเมืองเป็นภารกิจของตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าช่วยเหลือ หรือเข้าปฏิบัติการเอง เทคนิคการปฏิบัติคงเป็นเช่นเดียวกับการปฏิบัติการในพื้นที่ชนบทห่างไกล ก่อนเริ่มปฏิบัติการ จะต้องได้รับข่าวสารเกี่ยวกับข้าศึก, สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของข้าศึก และวิธีการปฏิบัติของข้าศึก เทคนิคของฝ่ายปราบปรามจะประกอบด้วย :

• การป้องกันฐานที่ตั้ง

• การปิดกั้นถนนและตั้งจุดตรวจ

• การแยกสลายฝูงชน

• การปฏิบัติการตรวจค้น

• การลาดตระเวนเฝ้าตรวจ

ก – ๔ การใช้กำลังน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น

ในสภาพแวดล้อมของตัวเมือง หลักการใช้กำลังน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นจะมีความสำคัญ และเกี่ยวเนื่องกับกฎของการปะทะ อันตรายอย่างใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นจากการทำให้พลเรือนที่บริสุทธิ์ที่อยู่ในย่านชุมชนต้องบาดเจ็บ หรือล้มตาย การปฏิบัติการกวาดล้างจะต้องมีการปรับและประยุกต์เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนเหล่านั้น การใช้ลูกระเบิดขว้างโยนเข้าไปในห้องก่อนที่จะเคลื่อนที่เข้าไปนั้นอาจเป็นการขัดแย้งกับกฎของการปะทะอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากเราทราบที่ตั้งของฝ่ายกบฏที่อยู่โดดเดี่ยวแล้ว ก็สามารถใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงในการยิงทำลาย ซึ่งระบบอาวุธเหล่านี้จะยังความเสียหายแก่บริเวณข้างเคียงน้อยที่สุด และลดโอกาสที่จะทำให้ประชาชนหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบต้องได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเรามักไม่ค่อยพบกลุ่มกบฏเป็นกลุ่มใหญ่ในตัวเมือง ดังนั้นจึงไม่มีฐานที่มั่นของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น นอกจากจะมีเพียงบ้านที่ใช้เป็นแหล่งซ่อนตัว และนอกเหนือไปจากนี้การสังหารหรือจับพวกกบฏและพวกก่อความไม่สงบยังจะต้องใช้เวลานานและยากมากที่จะทำได้ เช่นเดียวกับการเข้าตีแบบประณีตก็มักจะไม่เกิดขึ้น





ผนวก ข

การใช้ควัน, เครื่องฉีดไฟ, สารทำลายพืช และสารปราบจลาจล

ในผนวกนี้ จะอธิบายแนวทางในการใช้สารเคมี และสิ่งอุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ในการปราบปรามการก่อความไม่สงบ

ข – ๑ ควัน

ควัน อาจถูกนำมาใช้เพื่อการพิสูจน์ฝ่าย, ทำสัญญาณ, การอำพราง, การลวง และการทำฉากกำบัง ควันสามารถช่วยการพิสูจน์ฝ่ายและใช้ชี้เป้าหมาย, ช่วยในการส่งกำลังและการส่งกลับ รวมทั้งการใช้บอกตำแหน่งของหน่วยทหารฝ่ายเดียวกัน นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้ผู้บังคับหน่วยปราบปรามการก่อความไม่สงบเตรียมการจัดการสื่อสารในสนามรบได้อีกด้วย

ก. การอำพรางช่วยในการลวง ทำให้ข้าศึกเข้าใจผิด, ซ่อนพรางการดำเนินกลยุทธ์ และช่วยเพิ่มสัดส่วนของศักย์ในการรบเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถมองเห็นเป้าหมาย ควันสนับสนุนการปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำได้ด้วยการทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเหมือนอยู่โดดเดี่ยวและถูกตัดขาด ทำให้บั่นทอนกำลังใจในการสู้รบ ในการปฏิบัติต่อต้านการก่อการร้าย ควันจะจำกัดการใช้สนามบินหรือสิ่งอำนวยความสะดวก และซ่อนพรางการเคลื่อนที่ของกำลังฝ่ายต่อต้านการก่อการร้าย นอกจากนี้ยังจำกัดประสิทธิภาพในการใช้เครื่องช่วยมองเห็นที่ฝ่ายก่อการร้ายได้รับการสนับสนุนมาจากประเทศอื่น

(๑) การใช้วิธีอำพรางในการต่อต้านการก่อการร้าย หรือการปราบปรามการก่อความไม่สงบ จำเป็นต้องใช้การวางแผนในลักษณะเดียวกันกับการปฏิบัติการในความขัดแย้งระดับปานกลางจนถึงความขัดแย้งในระดับสูง หากได้มีการวางแผนอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว การอำพรางจะช่วยเพิ่มโอกาสอยู่รอดให้กับทหารฝ่ายเดียวกัน โดยซ่อนพรางหน่วยทหารฝ่ายเดียวกันจากการตรวจการณ์ของฝ่ายข้าศึก และช่วยป้องกันการรวบรวมข่าวสารจากฝ่ายข้าศึก โดยไม่ลดขีดความสามารถในการปฏิบัติการของฝ่ายเรา

(๒) ในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ หน่วยทหารใช้ควันเพื่อป้องกันกำลังในการปฏิบัติการแสดงกำลังหรือแสดงการลวง ในระหว่างการปฏิบัติการส่งลงหรือการเข้าตีโฉบฉวย หน่วยทหารจะใช้การอำพรางเพื่อปกปิดพื้นที่ส่งลงและทางเข้าสู่ตัวอาคาร และทำให้ข้าศึก สับสนในเรื่องขนาดและกำลังของฝ่ายเรา การใช้การอำพราง สามารถลดประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมและบังคับบัญชาของข้าศึก และช่วยเพิ่มโอกาสในความสำเร็จของฝ่ายเรา ในระหว่างการถอนตัวกลับจากการแทรกซึม ควันจะช่วยปกปิดเส้นทางและสามารถช่วยให้กำลังของฝ่ายเราผละออกจากการปะทะและหลบหนีออกมาได้ การปฏิบัติการลวงโดยใช้ควันจะต้องมีการวางแผนและเบี่ยงเบนความสนใจของข้าศึกออกจากการปฏิบัติการตามเจตนารมณ์ของฝ่ายเรา

ข. แหล่งกำเนิดควันจะได้มาจาก :

(๑) เครื่องมือกลที่ใช้สร้างฉากควัน (เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่)

(๒) ลูกระเบิดขว้างควัน (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, ทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย)

(๓) หม้อควันแบบเอ็ม ๑, ขนาด ๑๐ ปอนด์ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก)

(๔) หม้อควันแบบ ABC-เอ็ม ๕, ขนาด ๓๐ ปอนด์ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก)

(๕) หม้อควันลอยน้ำแบบ เอ็ม ๔ เอ ๒ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, บนพื้นดินหรือผิวน้ำ)

(๖) ลย./ค. WP ควัน และกระสุน ป.WP และ HC (ใช้อำพราง, ทำสัญญาณ, ทำการลวง,พิสูจน์ฝ่าย, ทำฉากควัน)

(๗) กระสุนปืนใหญ่รถถัง WP. ขนาด ๙๐ มม. และ ๑๐๕ มม. (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, ใช้อำพราง, ทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย)

(๘) ลูกระเบิดควันยิงจากรถถัง, ยานรบทหารราบ และ ค.เอ็ม ๒๐๓ (สร้างควันกำบังเป็นบุคคล)

(๙) ระบบสร้างควันจากไอเสียของยานยนต์, รถถัง และยานรบทหารราบ (สร้างควันกำบังเป็นบุคคล)

(๑๐) เครื่องมือผลิตควันปล่อยจากอากาศยาน (สร้างฉากควันขนาดใหญ่)

ค. การสร้างฉากควันอาจได้ผลน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและภูมิประเทศ ตัวอย่างเช่น กระแสลมอาจพัดแรงมาก หรือพัดไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ การทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย และการอำพราง เป็นภารกิจการใช้ควันที่เหมาะสมในขั้นตอนต่าง ๆ ของการปฏิบัติการปราบปรามการก่อความไม่สงบ

ข – ๒ เครื่องฉีดไฟ และเครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒

เปลวไฟจากเครื่องฉีดไฟและสะเก็ดระเบิดเพลิง จะสร้างอำนาจการเผาผลาญทำลายในพื้นที่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๐๐ เมตร เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการตั้งรับ หากต้องการทำการยิงไปยังเป้าหมายเฉพาะจุด ก็ควรใช้เครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒ ยิงเพื่อเผาทำลายที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม

ก. ทุ่นระเบิดเพลิง เป็นอาวุธสังหารที่กำหนดทิศทางการใช้และสามารถจุดระเบิดด้วยเครื่องมือหรือทำงานด้วยลวดสะดุด เปลวเพลิงที่กระจายออก และสะเก็ดระเบิดเพลิงจะมีอำนาจการเผาผลาญทำลายในพื้นที่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ ๒๐ ถึง ๑๐๐ เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของทุ่นระเบิด

ข. ท่อระเบิดเพลิง (เปลวเพลิง/สะเก็ดระเบิดเพลิง) มีลักษณะคล้ายคลึงกับทุ่นระเบิด ยกเว้นอำนาจการระเบิดจะพุ่งตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (มากกว่าที่จะกระจายออกไปทุกทิศทาง) ถังรูปทรงกระบอกขนาด ๕๕ แกลลอน มักจะถูกใช้เป็นท่อบังคับทิศทางของเปลวเพลิงและสะเก็ดระเบิดท่อดังกล่าวที่ใช้บังคับทิศทางจะถูกวางในคูรูปตัววี ที่มีกระสอบทรายปูพื้น และวางดินระเบิดไว้ตรงด้านหลังของท่อ เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น เปลวเพลิง และเศษชิ้นของโลหะจะถูกแรงระเบิดดันออกไปในระยะประมาณ ๒๐๐ เมตร หรือมากกว่านั้น (ในรูปทรงของตัว V กระจายออกกว้าง)

ค. เครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒ ประกอบด้วยลูกจรวด ๔ ลูก ซึ่งจะระเบิดออกเป็นเปลวเพลิงพุ่งไปสู่เป้าหมาย เครื่องมือช่วยการเล็งบนตัวเครื่องยิงจะทำให้ลูกจรวดพุ่งเข้าสู่เป้าหมายในการรบประชิดได้อย่างแม่นยำ

ข – ๓ สารทำลายพืช

กองทัพสหรัฐ ฯ จะปฏิเสธการใช้สารทำลายพืชในอันดับแรกของการทำสงคราม ยกเว้นการใช้เพื่อกำจัดหรือควบคุมพืชพันธุ์ไม้ และวัชพืชภายในฐานที่ตั้งและหน่วยทหาร สารทำลายพืชอาจถูกนำมาใช้ในพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ฐานการตั้งรับแบบวงรอบเพื่อช่วยในการถากถางพื้นการยิงและการตรวจการณ์ สารเคมีดังกล่าวแล้วนี้จะมีอำนาจในการทำลายผลผลิตที่เป็นอาหาร และทำให้เกิดการร่วงหล่นของใบไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพสหรัฐ ฯ จะไม่ใช้สารทำลายพืชในหนทางปฏิบัตินี้ นอกจากว่าฝ่ายตรงข้ามจะนำมาใช้ปฏิบัติการต่อกำลังทหารของสหรัฐ ฯ และผู้นำของสหรัฐ ฯ ได้สั่งการอนุมัติให้มีการใช้ เพื่อตอบโต้อย่างรุนแรง

ข – ๔ สารปราบจลาจล

กองทัพสหรัฐ ฯ จะปฏิเสธการใช้สารปราบจลาจลในอันดับแรกของการทำสงคราม ยกเว้นการใช้เพื่อการป้องกันและสงวนรักษาชีวิตของกำลังพล การใช้สารปราบจลาจลจะไม่ถูกจัดอยู่ในนโยบายเช่นเดียวกับการใช้สารเคมี ทั้งนี้เนื่องจากสารปราบจลาจลไม่ได้ถูกใช้เพื่อทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และผลการใช้ของมันก็มีอยู่ในห้วงระยะเวลาสั้น ๆ และจะต้องมีการพิจารณาเมื่อเกิดสถานการณ์ว่าการใช้สารปราบจลาจลจะมีความเหมาะสมมากกว่าการใช้อาวุธตามแบบ (ดูรายละเอียดใน รส.๓ – ๑๐๐)

ก. ตัวเปลือก สป.๕ ที่ใช้บรรจุสารปราบจลาจล ได้แก่ ลูกระเบิดขว้าง และกระสุนบรรจุสารเคมีขนาด ๔๐ มม. (กระสุนของ ค.เอ็ม ๒๐๓) เมื่อนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขว้างหรือการยิงลูกระเบิด จะต้องใช้จากทิศทางเหนือลม เพื่อป้องกันมิให้ไอระเหยจากสารเคมีลอยออกจากเป้าหมาย หรือย้อนกลับมาหาตัวผู้ใช้

ข. การใช้สารปราบจลาจลโดยทั่วไปจะประกอบด้วย สารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อปอด และทำให้มีน้ำตาไหลออกมา สารปราบจลาจลนี้จะถูกใช้เพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายก่อความไม่สงบต้องออกมาจากอุโมงค์, ถ้ำ และตัวอาคาร โดยฝ่ายเรามุ่งหวังที่จะจับกุม เมื่อกำลังฝ่ายปราบปรามการก่อความไม่สงบได้พบพื้นที่ซุ่มซ่อนที่น่าจะเป็นไปได้ ก็อาจนำสารปราบจลาจลมาใช้เพื่อให้ฝ่ายก่อความไม่สงบยอมจำนนและถูกจับกุม

ค. เมื่อกำลังของหน่วยปราบปรามการก่อความไม่สงบอยู่ในที่มั่นตั้งรับ ก็อาจใช้การจุดระเบิดสารปราบจลาจลที่มีลักษณะเป็นผง โดยใช้เครื่องควบคุมการจุดจากระยะไกลได้

ง. กำลังพลของหน่วยปราบปรามจะสวมหน้ากากป้องกัน และมีเครื่องปกปิดป้องกันผิวหนังนอกเสื้อผ้า เมื่อใช้สารปราบจลาจล และภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จะต้องใช้การชำระล้างพิษที่ตกค้างหรือติดอยู่ตามบริเวณผิวหนัง ด้วยการแปรงและซักล้างเสื้อผ้า





ผนวก ค

การปฏิบัติการ และเทคนิค

ใน ผนวก ค นี้จะแสดงเทคนิควิธีการที่อาจนำมาใช้เมื่อต้องเข้าปฏิบัติการทางยุทธวิธีทั่วไปที่ใช้ในการปราบปรามการก่อความไม่สงบ ตาราง ค – ๑ จะแสดงให้เห็นรูปแบบของการปฏิบัติการทั่วไป และเทคนิคที่กองกำลังฝ่ายปราบปรามได้นำมาใช้ การปฏิบัติการขนาดใหญ่นั้นจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการก่อความไม่สงบหรือการกบฏแต่ยุทธวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็กเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดของฝ่ายเราที่จะใช้ได้ในทุกขั้นตอน(ดูรายละเอียดใน รส.๗–๗, ๗-๘, ๗ - ๑๐, ๗ - ๒๐, ๗ - ๓๐, ๗๑ - ๑, ๗๑ - ๒ และ ๗๑ - ๓)

ตอนที่ ๑

การปฏิบัติการ

ด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราก็สามารถนำเอาการปฏิบัติการตามที่ได้อธิบายไว้ใน รส.๗ – ๑๐, ๗ - ๒๐, ๗๑ - ๑ และ ๗๑ - ๒ มาใช้ในการต่อต้านและปราบปรามกองโจรได้ การปฏิบัติการดังกล่าว ได้แก่ การตีโฉบฉวย, การเคลื่อนที่เข้าปะทะ, การเข้าตีเร่งด่วน, การเข้าตีประณีต, การลาดตระเวนด้วยกำลัง, การขยายผล และการไล่ติดตาม

ค – ๑ การโอบล้อม

การโอบล้อมเป็นวิธีการที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ตัดเส้นทางหลบหนี และการเพิ่มเติมกำลังทางภาคพื้นดินของฝ่ายก่อความไม่สงบที่อยู่ในวงล้อม การโอบล้อมจะทำให้ฝ่ายก่อความไม่สงบต้องถูกตรึงกำลังอยู่กับที่และฝ่ายปราบปรามจะสามารถปฏิบัติการให้ได้ผลลัพธ์ขั้นแตกหัก หน่วยระดับกองพันหรือใหญ่กว่าอาจเลือกใช้วิธีการนี้ปฏิบัติต่อฝ่ายข้าศึก

ก. หน่วยระดับกองร้อยและเล็กกว่า มักจะมีกำลังพลไม่พอเพียงและขาดขีดความสามารถในการควบคุม และบังคับบัญชาที่จะปฏิบัติการโอบล้อม (ยกเว้นจะเข้าปฏิบัติต่อกำลังฝ่ายข้าศึกที่มีขนาดเล็กกว่ามาก) หน่วยรองหลักต่าง ๆ ของกรมสามารถที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการโอบล้อมภายในกรอบของหน่วยที่ใหญ่กว่า

ข. การวางแผน, การเตรียมการ และการปฏิบัติ จะมีจุดมุ่งเข้าโอบล้อมฝ่ายข้าศึกในทุกทิศทาง การระวังป้องกันและการจู่โจมจะบังเกิดผลได้ด้วยการเข้าปฏิบัติการโอบล้อมให้แล้วเสร็จภายในเวลาค่ำมืด

ค. การเคลื่อนที่เข้าโอบล้อมจะต้องปฏิบัติด้วยความรวดเร็ว การใช้การยุทธเคลื่อนที่โจมตีทางอากาศ และหน่วยทหารราบส่งทางอากาศ สามารถสร้างจังหวะความเร็วและการจู่โจมได้ในขั้นแรกของการโอบล้อม ตำบลต่าง ๆ จะถูกยึดภายในเวลาเดียวกันและปิดกั้นเส้นทางหลบหนี แต่ถ้าหากไม่สามารถเข้ายึดตำบลต่าง ๆ ภายในเวลาเดียวกันได้ ก็จะต้องพิจารณาเข้ายึดครองบริเวณที่ข้าศึกน่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีก่อนเป็นอันดับแรก การเข้ายึดครองในขั้นแรก จะเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดของการโอบล้อม หากฝ่ายข้าศึกได้มีการไหวตัวหรือได้รับข้อมูลข่าวสารล่วงหน้า ก็อาจใช้วิธีการตอบโต้อย่างฉับพลัน และพยายามเจาะช่องว่าง หรือการเข้าโจมตีต่อฝ่ายเราในจุดที่อ่อนแอเพื่อเจาะ ช่องว่าง

ง. หน่วยที่เข้าทำการยึดตำบลต่าง ๆ ในการโอบล้อม จะต้องวางการลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างแข็งแรงไปข้างหน้า เพื่อที่จะได้แจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วต่อการพยายามเจาะช่องของฝ่ายข้าศึก และกำลีงของหน่วยลาดตระเวนเฝ้าตรวจจะถูกใช้เพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนี กองหนุนเคลื่นที่เร็วจะต้องถูกวางไว้ในตำบลที่สามารถเคลื่อนที่อย่างฉับพลัน เพื่อต่อต้านความพยายามในการหักวงล้อม และเพื่อที่จะสามารถเข้าเสริมในจุดที่เป็นภูมิประเทศที่ยากลำบาก เช่น ร่องลึก หรือพื้นที่ที่มีถ้ำหรืออุโมงค์

จ. การยิงสนับสนุนด้วยการเล็งจำลอง สามารถใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของข้าศึก จากการเข้าโอบล้อมของฝ่ายเรา ขณะที่กำลังของฝ่ายเราเคลื่อนที่เข้าสู่ตำบลต่าง ๆ การยิงสนับสนุนทั้งหมดรวมทั้งการยิงของปืนใหญ่ จะต้องถูกวางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อสนับสนุนการเข้าโอบล้อมภายหลังจากที่ฝ่ายข้าศึกได้รู้ตัวแล้ว

การดำรงความต่อเนื่อง

การสนับสนุนการช่วยรบ


“ไม่ตรวจดูตะปูตัวเดียวถอน

เกือกม้าคลอนไม่กระชับอยู่กับที่

ม้าถลำขุนพลหล่นทันที

ทัพไม่มีใครบัญชาเลยปราชัย”

ภาษิต นักส่งกำลังบำรุง

(เบนจามิน แฟรงคลิน)

ในบทนี้จะอธิบายรายละเอียดของการสนับสนุนการช่วยรบ ในแต่ละกรณีของความขัดแย้งระดับต่ำ การดำรงความต่อเนื่องในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ประกอบด้วยทุกส่วนของการสนับสนุนการช่วยรบ ซึ่งอาจเริ่มนับตั้งแต่ชุดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ ซึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม ไปจนถึงชุดเฉพาะกิจด้านการแพทย์ที่สนับสนุนหน่วยระดับกรมที่ปฏิบัติการด้านยุทธวิธี ความขัดแย้งระดับต่ำในแต่ละกรณีจะมีลักษณะของกรรมวิธีในการสนับสนุนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะต้องกำหนดให้เหมาะสมในแต่ละการปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น การดำรงรักษาความต่อเนื่องสำหรับการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ โดยมากมักจะใช้การดำเนินการไปตามระบบการส่งกำลังบำรุงตามปกติ การดำรงรักษาความต่อเนื่องสำหรับการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ จะประสบความสำเร็จได้จากการสนับสนุนขององค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยกองกำลังที่มีอำนาจหน้าที่ ในรายละเอียดมากยิ่งไปกว่านี้จะค้นคว้าได้จาก รส.๖๓ - ๖, การสนับสนุนการช่วยรบในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ

ตอนที่ ๑

แนวทางในการสนับสนุนการช่วยรบ

ในตอนที่ ๑ นี้ จะอธิบายแนวทางทั่วไปที่จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ในทุกลักษณะของความขัดแย้งระดับต่ำ การสนับสนุนทางด้านการส่งกำลังบำรุงในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำจะประกอบด้วย การจัดหาวัสดุ และสิ่งอุปกรณ์ให้กับกำลังทหารทั้งของสหประชาชาติ และกำลังรบของประเทศเจ้าบ้าน และยังอาจหมายรวมถึง การพัฒนาระบบการส่งกำลังบำรุง, โครงสร้างภายใน และระเบียบปฏิบัติสำหรับประเทศเจ้าบ้าน และการฝึกกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการส่งกำลังบำรุงของประเทศเจ้าบ้าน ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ, ส่วนส่งกำลังบำรุงมักจะต้องเดินทางเข้าไปก่อนกำลังทหารส่วนอื่น ๆ ที่จะเข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ปฏิบัติการ หรืออาจจะเป็นกำลังเพียงส่วนเดียวโดด ๆ ก็ได้ ระบบการส่งกำลังบำรุงที่สนับสนุนให้กับกำลังทหารของสหประชาชาติ หรือกำลังทหารของประเทศเจ้าบ้านจะต้องปฏิบัติการภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีความจำกัด รวมทั้งตัวบทกฎหมาย และข้อจำกัดทางด้านการเมืองของประเทศที่ส่งกำลังทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจ ดังนั้น ระบบดังกล่าวจึงต้องมีความอ่อนตัวเพียงพอที่จะเลือกกำหนดใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์

๘ - ๑ หลักการพื้นฐานของการสนับสนุน

หลักการพื้นฐานของการสนับสนุนสามารถใช้ปฏิบัติได้ในสภาวะของความขัดแย้งที่รุนแรงเต็มที่ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบจะต้องประยุกต์และใช้หลักการต่าง ๆ เหล่านี้ให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมของความขัดแย้งระดับต่ำ ซึ่งจะปรากฏรูปลักษณ์ของการท้าทายเฉพาะตัว หัวข้อดังต่อไปนี้คือแนวทางสำหรับการจัดตั้งและดำเนินระบบการส่งกำลังบำรุงในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ

ก. ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดมากที่สุด

ข. จัดกำลังเฉพาะกิจให้มีความอ่อนตัว

ค. มีขีดความสามารถที่จะปฏิบัติการได้ทุกยุทธบริเวณ หรือทุกประเทศ

ง. ใช้การปฏิบัติตามงานประจำของการสนับสนุนของประเทศเจ้าบ้าน ซึ่งหมายรวมถึง การบริการในท้องถิ่น, สิ่งอุปกรณ์, สิ่งอำนวยความสะดวก และการขนส่ง

จ. ใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ประจำที่ เช่น เส้นหลักการคมนาคม, ท่าเรือ และสนามบิน

ฉ. สะสมสิ่งอุปกรณ์ให้ได้มากที่สุด

ช. ใช้กำลังพึ่งพาให้มากที่สุดจากระบบการส่งกำลังบำรุงของเขตภายใน หรือหากเป็นไปได้ให้ใช้จากฐานการส่งกำลังบำรุงในภูมิภาค

ซ. จัดให้มีการป้องกันตนเอง

ด. จัดให้มีมาตรการป้องกันทั้งเชิงรุกและเชิงรับสำหรับหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ

ต. ใช้การปฏิบัติงานประจำทั้งการเคลื่อนย้ายทางอากาศในยุทธบริเวณ และทางยุทธ-ศาสตร์ จนกว่าการขนส่งทางภาคพื้นดิน สามารถให้การสนับสนุนการวางกำลังได้

ถ. พยายามกำจัดการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ซ้ำซ้อน หรือระบบงานที่ก้าวก่ายกัน

ท. ความขัดแย้งในระยะสั้น (น้อยกว่า ๙๐ วัน) ควรจะต้องได้รับการสนับสนุนจากระบบที่ได้กำหนดเลือกอย่างรอบคอบ และวางแผนการส่งกำลังครบระบบ

๘ - ๒ การวางแผนการสนับสนุน

การวางแผนการสนับสนุนสำหรับการปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ เป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง องค์ประกอบของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่จะออกปฏิบัติการที่ได้กำหนดขึ้นในระหว่างการวางแผนตามภารกิจ และการพัฒนากำลังนั้น เป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของการปฏิบัติการทุกครั้ง เมื่อได้พิจารณากำหนดแนวความคิดในการปฏิบัติขึ้นมาแล้ว, การวางแผนการสนับสนุนการช่วยรบในรายละเอียดก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ การวางแผนการสนับสนุนควรจะลงในรายละเอียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวยให้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการ การสนับสนุนในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำมักจะเกิดขึ้นทันทีทันใด โดยอาจจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเพียงเล็กน้อย และอาจเกิดขึ้นได้ในยุทธบริเวณใดก็ตามในการปฏิบัติการ ดังนั้น จึงเป็นการดีที่สุดที่จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจถึงสภาวะแวดล้อม และลักษณะเฉพาะของความขัดแย้งระดับต่ำ

๘ - ๓ ข่าวกรองทางการส่งกำลังบำรุง

ข่าวกรองด้านการสนับสนุนการช่วยรบมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในงานการวางแผนในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ข่าวกรองนี้จะถูกจัดประเภทไว้ให้อยู่ในข้อมูลข่าวสารระดับยุทธการและระดับยุทธวิธี ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับผู้บริหารจัดการสนับสนุนการช่วยรบ เพื่อพัฒนาและดำเนินการตามแผนสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงในแนวความคิดเฉพาะด้านในการปฏิบัติ ข่าวกรองด้านการสนับสนุนการช่วยรบควรจะประกอบด้วย :

ก. เจตนารมณ์ที่จะเข้าร่วมในการปฏิบัติการผสม

ข.การขยายขอบเขตของการสนับสนุนการช่วยรบไปยังหน่วยงานที่มิใช่ของกระทรวงกลาโหม, กำลังทหารของมิตรประเทศ หรือกองกำลังร่วมผสม และอื่น ๆ

ค. ทรัพยากรที่มีอยู่ และสามารถนำมาใช้ได้ในพื้นที่ปฏิบัติการ

ง. เงื่อนไขที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยในการใช้งาน

จ. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับขีดความสามารถของสิ่งอำนวยความสะดวกในท้องถิ่นในอันที่จะสนับสนุนการปฏิบัติการ และความต่อเนื่องในการปฏิบัติ

ฉ. โครงสร้างทางการส่งกำลังบำรุงของกองทัพต่างประเทศ และขีดความสามารถของโครงสร้างภายในชาติ

ช. ปัจจัยเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม

ซ. การวิเคราะห์เส้นทางการคมนาคม และการติดต่อสื่อสาร

๘ - ๔ การรักษาความปลอดภัย

เมื่อหน่วยได้เคลื่อนกำลังเข้าพื้นที่ปฏิบัติการแล้ว, การกระจายกำลังกันออกไปอย่างกว้างขวาง, ความจำเป็นที่จะต้องระวังป้องกันฐานปฏิบัติการทุกแห่ง รวมทั้งที่ตั้งทางทหารอื่น ๆ, ความจำเป็นที่จะต้องจัดการระวังป้องกันให้กับการเคลื่อนย้ายทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ อีกทั้งการเข้าควบคุมทรัพยากรในท้องถิ่น ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วจะกลายเป็นอุปสรรคในการบั่นทอนการส่งกำลังบำรุงในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาดังกล่าว จึงควรที่จะจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางการส่งกำลังบำรุง และมีการจัดเก็บสิ่งอุปกรณ์วางระดับสะสมไว้เพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อลดความต้องการในการจัดการรักษาความปลอดภัยลง ซึ่งจะทำให้ลดอัตราการเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม หรือขโมยสิ่งอุปกรณ์ หรือการที่ฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาทำลายสิ่งอุปกรณ์ของฝ่ายเรา และในการที่จะใช้หลักการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างเต็มที่ และให้เกิดประโยชน์สูงสุดนี้ จะต้องคำนึงถึงกำลังระวังป้องกันในท้องถิ่น รวมทั้งประชาชนโดยหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาและผลกระทบต่อกลุ่มที่กล่าวมาแล้ว





๘ - ๕ การจัดกำลังเพื่อปฏิบัติการสนับสนุนการช่วยรบ

โครงสร้างของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบส่วนใหญ่จะเอื้ออำนวยต่อการที่จะจัดกำลังเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และภารกิจ ความอ่อนตัวนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การจัดองค์กรของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ สามารถตอบรับสถานการณ์การใช้กำลังได้อย่างมากมายหลายรูปแบบในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ขั้นตอนของระบบการสนับสนุนการช่วยรบ ซึ่งใช้กันอยู่ในสงครามตามแบบ มักจะไม่ค่อยสนองตอบต่อการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องของหน่วยกำลังรบในความขัดแย้งระดับต่ำในพื้นที่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก การประสานงานติดต่อกันโดยตรงระหว่างหน่วยในพื้นที่ปฏิบัติการ กับแหล่งผลิตและผู้ขายส่งสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นในท้องถิ่นนั้น ๆ เป็นหัวใจของการสนับสนุนที่สนองตอบต่อความต้องการในพื้นที่ปฏิบัติการ ดังนั้นระเบียบปฏิบัติจึงจะต้องถูกจัดทำขึ้นแต่เนิ่นพอที่จะมีเวลาสำหรับการประสานติดต่อโดยตรงดังกล่าว ความง่ายถือเป็นปัจจัยสำคัญของการสนับสนุนการช่วยรบ เนื่องจากจะเอื้ออำนวยและก่อให้เกิดความอ่อนตัวสำหรับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิผลภายใต้ความต้องการและเงื่อนไขที่จำกัด การสนับสนุนการช่วยรบจะต้องถูกออกแบบและจัดให้สอดคล้องกับกำลังผสมและเงื่อนไขจากปัจจัย METT – T

ก. วิธีการที่มักจะนิยมใช้กันคือการสมทบกองพันแบบเบาให้กับกรมแบบหนัก หรือการให้กำลังแบบหนักขึ้นการควบคุมทางยุทธการต่อกรมแบบเบา ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ความหมายของการขึ้นการควบคุมทางยุทธการจะหมายรวมถึง หน่วยที่ไปขึ้นการควบคุมนั้นจะต้องนำสิ่งอุปกรณ์, เครื่องมือ และบุคลากรที่จะใช้สำหรับการสนับสนุนนอกเหนือไปจากที่หน่วยที่รับการขึ้นการควบคุมทางยุทธการมีอยู่ในอัตราติดตามไปด้วย เมื่อสถานการณ์ได้ถูกพัฒนาไป หน่วยที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการนั้น ก็อาจกลายเป็นหน่วยขึ้นสมทบ และชุดการสนับสนุนดังกล่าวอาจไปอยู่ในการควบคุมของกองบังคับการของหน่วยเหนือขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

ข. กรมแบบเบาจะเน้นความสำคัญของกำลังส่วนที่จะมาทดแทน หรือผลัดเปลี่ยน, แต่หน่วยกำลังแบบหนักจะเน้นความสำคัญของยุทโธปกรณ์ที่ใช้สำหรับการซ่อมบำรุง ผู้บังคับบัญชาจะต้องตระหนักถึงความจริงในข้อนี้ตลอดเวลาของการปฏิบัติการยุทธ์

ค. หน่วยแบบเบาสามารถใช้เครื่องมือการขนส่งของกำลังแบบหนักได้โดยไม่มีข้อจำกัดในตัว

๘ - ๖ ความต้องการ

เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของการกระจายกำลังกันออกไปอย่างกว้างขวาง จึงจำเป็นต้องนำหลักการด้านความอ่อนตัวของการสนับสนุนการช่วยรบ, การคาดการณ์ล่วงหน้า, การแก้ไขปรับปรุง, การสนองตอบอย่างรวดเร็ว และการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดและเต็มที่ของทรัพยากรในท้องถิ่นมาใช้เป็นหลัก นอกจากนี้ยังจะต้องพิจารณาถึงความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ขนย้ายสิ่งอุปกรณ์สะสมที่มีอยู่เกินความจำเป็นในพื้นที่ส่วนหน้า, เพื่อการปกปิดสถานที่ตั้งทางการช่วยรบในพื้นที่ของการรักษาความปลอดภัย และเพื่อจัดให้มีความรวดเร็วในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วย การส่งกำลังทางอากาศจะช่วยลดความจำเป็นในการใช้หน่วยระวังป้องกันทางภาคพื้นดินในระหว่างการเคลื่อนที่ทางถนน และยังช่วยลดเป้าหมายการโจมตีและการแย่งชิงสิ่งอุปกรณ์จากฝ่ายตรงข้าม การสนับสนุนการช่วยรบในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ต้องการสิ่งต่าง ๆ ดังนี้.-

ก. การจัดการบังคับบัญชา และควบคุมอย่างเข้าใจถ่องแท้ และชัดเจน

ข. ข่ายการติดต่อสื่อสารด้านการสนับสนุนการช่วยรบที่เชื่อถือและวางใจได้

ค. เส้นหลักการคมนาคมและการติดต่อสื่อสารที่มีการระวังป้องกันและการรักษาความปลอดภัย

ง. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ในยุทธบริเวณ, เน้นในเรื่องการเคลื่อนย้ายทางอากาศ และเฮลิคอปเตอร์สนับสนุน

จ. วิธีที่ใช้ในการขยายผลการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น ภายใต้ขีดจำกัดทางการเมืองและส่วนต่าง ๆ ของสังคม ภายในความขัดแย้งระดับต่ำ

ฉ. วิธีการป้องกันฐานที่ตั้งทางการสนับสนุนการช่วยรบ

ช.เครื่องมือหรืออุปกรณ์อัตโนมัติและควบคุมการเคลื่อนย้ายเพื่อให้เกิดการสนับสนุนสนองตอบโดยเร็ว

ซ. ทรัพยากรในการสร้าง ค่ายพัก และสนามบิน, การปรับปรุงอาคาร, เสบียงและการดำรงรักษาการบริการ รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนในชุมชน

ด. วิธีการจัดตั้งระบบการส่งกลับผู้บาดเจ็บและระบบการรักษาพยาบาล

ต. ระบบการซ่อมบำรุงที่อ่อนตัวเพื่อสนองตอบความต้องการและพอเพียงต่อจำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติการ

ถ. วิธีการเก็บรวบรวม, ตรวจสอบวิเคราะห์ และกระจายข่าวกรองทางการสนับสนุนการช่วยรบก่อน และระหว่างการปฏิบัติการ

ท. วิธีการสนับสนุนกองกำลังซึ่งอยู่โดดเดี่ยว หรือแยกห่างไกลจากหน่วยหลัก

น. การสนับสนุนทางด้านการเงิน เพื่อใช้จ่ายในการจัดซื้อสินค้าและการบริการที่ต้องจัดจ้าง รวมทั้งการชำระหนี้ที่จัดซื้อและจัดจ้าง

บ. การสนับสนุนทางด้านกฎหมายเพื่อตีความตัวบทกฎหมาย, การใช้กฎของการปะทะ และการป้องกันกำลังที่ได้รับมอบ

ป. แหล่งที่มีอยู่ของบุคลากรที่มีคุณวุฒิในด้านภาษา ทั้งในด้านการส่งกำลังบำรุงทางทหารและธุรกิจ ขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศเจ้าบ้าน

ผ. ชุดครูฝึกเคลื่อนที่ในเรื่องการส่งกำลังบำรุง และการฝึกหัดในด้านการส่งกำลังบำรุง

๘ - ๗ ประเภทของการสนับสนุน

การปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ต้องการขีดความสามารถในการปฏิบัติงาน, การรวดเร็วทันเวลา, การวางกำลังกระจายกัน ระบบการส่งกำลังบำรุงที่ใช้ในการเคลื่อนที่และวางกำลังจะต้องใช้ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างยากต่อการรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการถึงขั้นที่ต้องมีการเตรียมการประสานงานล่วงหน้าก่อนการเคลื่อนย้ายกำลัง ทั้งนี้จะเป็นไปตามความรวดเร็วของระบบ สภาพแวดล้อมที่เป็นเช่นนี้จำเป็นต้องใช้ระเบียบปฏิบัติที่มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่มากขึ้น ดังนั้น อำนาจการสั่งใช้ยานพาหนะจะต้องมอบหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่ควบคุม อำนวยการปฏิบัติการ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะต้องเปลี่ยนพร้อมกัน ความต้องการดังกล่าวจะต้องไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางความจำเป็นในการวางแผนและประสานการปฏิบัติเพื่อความสำเร็จในภารกิจ

ก. แต่ละประเภทในทั้งสามประเภทของการสนับสนุนการช่วยรบ จะต้องถูกพิจารณา ความเร่งด่วนในแต่ละประเภทจะต้องถูกจดขึ้นโดยใช้พื้นฐานจากแบบของการปฏิบัติการ และหลักการจากปัจจัย METT – T ประเภททั้งสามของการสนับสนุนการช่วยรบ ได้แก่ การสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง, การสนับสนุนด้านการบริการกำลังพล และการสนับสนุนด้านการบริการสุขภาพ

ข. การสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง ได้แก่.-

• การส่งกำลัง

• การขนส่ง

• การซ่อมบำรุง

• การบริการในสนาม ซึ่งประกอบด้วย การทะเบียนศพ, การแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าและการอาบน้ำ, การป้องกันความเสียหายของสิ่งอุปกรณ์, บริการซักรีด, การซ่อมแซมสิ่งทอ, การส่งทางอากาศ และการบริการอาหาร

ค. การสนับสนุนด้านการบริการกำลังพล ได้แก่.-

• การบริการธุรการและกำลังพล ซึ่งประกอบด้วย การจัดการกำลังพล, การจัดทำบัญชีบรรจุกำลังและการรายงานกำลังพล, การทดแทนกำลังพล, การจัดการผู้บาดเจ็บ, การจัดการข้อมูลกำลังพล และการจัดการฐานข้อมูลกำลังพล

• การสนับสนุนด้านการศาสนา ซึ่งประกอบด้วย การให้การบริการและคำปรึกษาด้านการศาสนา และการดูแลในด้านกิจการอนุศาสนาจารย์

• การบริการด้านกฎหมาย

• การบริการด้านการเงิน

• กิจการสาธารณประโยชน์

• การไปรษณีย์

• การสนับสนุนด้านการปฏิบัติต่อเชลยศึก

• การดูแลรักษาขวัญ และการพักฟื้น

ง. การสนับสนุนด้านการบริการสุขภาพ ได้แก่.-

• การรักษาพยาบาลและการส่งกลับ

• การสนับสนุนด้านการส่งกำลังเวชภัณฑ์

• การเวชกรรมป้องกัน

ตอนที่ ๒

การสนับสนุนในการปฏิบัติการก่อความไม่สงบ และการปราบปรามการก่อความไม่สงบ

ในตอนที่ ๒ นี้ จะอธิบายถึงวิธีการที่หน่วยสนับสนุนการช่วยรบใช้ดำเนินการสนับสนุนการปฏิบัติการก่อความไม่สงบ และการปราบปรามการก่อความไม่สงบ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบประกอบด้วย หน่วยเสนารักษ์, หน่วยส่งกำลัง, หน่วยขนส่ง, หน่วยซ่อมบำรุง และส่วนที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และกำลังพล ตามปกติแล้วหน่วยสนับสนุนการช่วยรบจะปฏิบัติการจากฐานที่ตั้งที่สนับสนุนหน่วยปฏิบัติการทางยุทธวิธี หน่วยสนับสนุนต่าง ๆ ดังกล่าวอาจเป็นหน่วยในอัตรา หรือเป็นหน่วยขึ้นสมทบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของหน่วย ในการปฏิบัติการก่อความไม่สงบและการปราบปรามการก่อความไม่สงบนั้น หน่วยสนับสนุนการช่วยรบอาจได้รับภารกิจเบื้องต้น,ในขณะที่บทบาททางด้านของทหารราบอาจจะเป็นการป้องกันหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ กรมทหารราบอาจปฏิบัติงานในลักษณะของกำลังผสมเหล่า และหน่วยบริการ พร้อมกับกำลังรบที่มีขนาดจำกัด และจัดดำเนินการควบคุมและบังคับบัญชาองค์กรด้านการสนับสนุนการช่วยรบในแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย

๘ - ๘ ระดับของการสนับสนุน

หน่วยสนับสนุนการช่วยรบส่วนมากจะมีที่ตั้งอยู่ที่กองพล หรือหน่วยระดับสูงกว่าขึ้นไป หน่วยเหล่านี้จะสนับสนุนโดยตรงต่อกรมตามความต้องการ ในบางกรณี กรมสามารถรับส่วนสนับสนุนที่ใหญ่กว่าปกติจากกองพลได้

ก. หน่วยบัญชาการสนับสนุนของกองพล การสนับสนุนจะประกอบด้วยชุดเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านการส่งกำลัง, การซ่อมบำรุง, การสนับสนุน สป.๕, การเสนารักษ์ และด้านการขนส่ง ในเมื่อเป้าหมายเร่งด่วนของหน่วยสนับสนุน คือการช่วยเหลือกำลังรบทางยุทธวิธีของกองพล เป้าหมายระยะยาวก็คือ การพัฒนากำลังประจำถิ่นให้สามารถปฏิบัติภารกิจดังกล่าวได้ หากกำลังประจำถิ่นประสบความล้มเหลว, จะต้องใช้การเตรียมการภายในพื้นที่ของความขัดแย้งสนับสนุนแผนเผชิญเหตุเพื่อดำเนินการเคลื่อนย้ายและวางกำลังของหน่วยกำลังรบ ในการสนับสนุนการป้องกันภายในของประเทศอื่นนั้น อาจใช้ส่วนสนับสนุนการช่วยรบที่ได้เลือกไว้แล้ว ดำเนินการสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทหารของประเทศเจ้าบ้าน ส่วนสนับสนุนการช่วยรบดังกล่าวยังอาจช่วยเหลือในด้านการฝึกกำลังประจำถิ่นให้ปฏิบัติงานในด้านการส่งกำลังบำรุงอีกด้วย

ข. หน่วยสนับสนุนการช่วยรบ สามารถปฏิบัติงานได้สองระดับ ระดับที่หนึ่งคือ ความต้องการจำนวนน้อยจากการสนับสนุนของชุดช่วยเหลือให้คำแนะนำ ส่วนระดับที่สองคือ การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ให้กับประเทศเจ้าบ้าน (ซึ่งให้ความช่วยเหลือในด้านการรักษาความปลอดภัย) เพื่อที่จะปรับปรุงการจัดหน่วยทหารและพลเรือน ฝอ.๑/ฝอ.๔ จะต้องประสานงานกับ ฝอ.๕ เพื่อพิจารณากำหนดความต้องการที่พอเพียงของการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น และจะต้องใช้การสนับสนุนในท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการวางแผนกำหนดความต้องการของหน่วยสนับสนุนนั้น ผู้บังคับบัญชาจะต้องพิจารณาการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างละเอียดรอบคอบและระมัดระวัง หากการใช้กำลังของฝ่ายเราจำเป็นต้องใช้เป็นหน่วยใหญ่กว่าชุดเล็ก ๆ (โครงการด้านการช่าง, การฝึกหน่วยเสนารักษ์) ขนาดของส่วนสนับสนุน (การส่งกำลังและการบริการ, การซ่อมบำรุง, การขนส่ง) จะเพิ่มขนาดตามไปด้วย หลักการนี้สามารถนำไปใช้ได้ในประเทศที่มีทรัพยากรค่อนข้างจำกัดที่จะให้การสนับสนุน

๘ - ๙ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบ

หน่วยสนับสนุนการช่วยรบในการปฏิบัติการปราบปรามกองโจร จะดำเนินการเช่นเดียวกับในการปฏิบัติการรบตามแบบ, คือการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ทุกชนิดส่งกำลังสนับสนุนให้กับหน่วยที่เข้าปฏิบัติการทางยุทธวิธี เนื่องจากฐานปฏิบัติการของหน่วยระดับกองพัน จะต้องมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะจัดตั้งฐานการสนับสนุนด้านการส่งกำลังได้อย่างจำกัด ดังนั้นส่วนส่งกำลังในระดับกองพันจึงมีขนาดเล็ก สิ่งอุปกรณ์ตามอัตราพิกัดที่มีใช้อยู่ในระบบปัจจุบันจึงสามารถใช้สนับสนุนปราบปรามกองโจรได้ โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย

ก. ขบวนสัมภาระรบส่วนมากมักจะอยู่ในพื้นที่ของขบวนสัมภาระสนามของกรม ดังนั้นจึงต้องดำรงรักษาเส้นทางการส่งกำลังของกองพันไว้ต้องพิจารณาการส่งกำลังเพิ่มเติมทั้งทางอากาศและทางพื้นดินต้องมั่นใจว่าระบบการสนับสนุนสำรองสามารถให้การสนับสนุนได้ในกรณีที่วิธีการส่งกำลังวิธีใดวิธีหนึ่งถูกรบกวน หน่วยส่งกำลังเพิ่มเติมทางยุทธวิธีจะต้องสามารถปฏิบัติงานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีการจัดตั้งขึ้นใหม่

ข.หน่วยสนับสนุนจากหน่วยบัญชาการ ดำเนินการสนับสนุนการช่วยรบโดยตรงให้กับกรม

๘ - ๑๐ ฐานปฏิบัติการสนับสนุน

ฐานปฏิบัติการสนับสนุนมักจะถูกจัดตั้งขึ้นโดยกองพัน และจะมีลักษณะกึ่งถาวรในการปฏิบัติการเสริมความมั่นคง โดยจะปฏิบัติงานในระยะเวลาเท่าที่ภารกิจของหน่วยจะมีความจำเป็นเท่านั้น

ก. การปฏิบัติงานหลักของฐานปฏิบัติการของกองพันก็คือ การสนับสนุนการปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยอาจจะจัดตั้งพื้นที่พักรองของกำลังพล และหน่วยก่อนปฏิบัติงาน, ศูนย์กลางการควบคุมบังคับบัญชาและการติดต่อสื่อสาร, ฐานการส่งกำลังบำรุงในลักษณะจำกัด ( ขบวนสัมภาระของกองพัน ), ฐานยิงสนับสนุน, ระบบการสนับสนุนด้านกำลังพลหรือที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดผสมกัน การปฏิบัติ ภารกิจเฉพาะด้านของระบบงานนี้จะดำเนินการได้ตามขีดความสามารถและความจำเป็นฐานปฏิบัติการเหล่านี้ต้องประกอบด้วยกำลังพลจำนวนน้อยที่สุดที่จะสามารถปฏิบัติภารกิจและจัดการระวังป้องกันตนเอง สำหรับกำลังพลที่มีความสำคัญระดับน้อยกว่า ซึ่งไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนสูงต่อภารกิจทางยุทธวิธี จะไปปฏิบัติงานอยู่ในฐานปฏิบัติการสนับสนุนของกรม

ข. ฐานปฏิบัติการของกองพัน ทำให้เกิดข้อดีบางประการ ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้และเป็นข้อพิจารณาอันดับรอง ซึ่งไม่ควรนำมาเบี่ยงเบนระบบงานหลัก คือการสนับสนุนการปฏิบัติการทางยุทธวิธี ข้อดีซึ่งถือเป็นผลพลอยได้มีดังนี้.-

(๑) ทำให้เกิดการแสดงตัวของหน่วยงานของรัฐบาลในพื้นที่ปฏิบัติการ

(๒) ช่วยเหลือในการจำกัดความคล่องแคล่วในการเคลื่อนของฝ่ายกองโจรในพื้นที่ใกล้เคียง

(๓) ช่วยก่อให้เกิดการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง

ค. ในการเลือกที่ตั้งฐานปฏิบัติการนั้น ผู้บังคับหน่วยจะต้องพิจารณาปัจจัยประกอบหลายประการ เช่น ที่ตั้งจะต้องมีพื้นที่กว้างขวางพอเพียงกับความต้องการของหน่วยรอง และอยู่ในภูมิประเทศที่เหมาะกับการป้องกันตน การใช้หรือการก่อสร้างสิ่งป้องกันอาคารจะต้องผ่านการพิจารณาเช่นเดียวกับ ที่มั่นตั้งรับ, เครื่องกีดขวาง และสนามทุ่นระเบิด หากหน่วยมีความต้องการที่จะใช้ฐานปฏิบัติการนั้นเพื่อการยิงสนับสนุนแล้ว พื้นที่นั้นจะต้องมีการปกปิดกำบังจากการยิงของอาวุธยิงเล็กจำลองได้มากที่สุด

(๑) ฐานปฏิบัติการจะต้องอยู่ห่างจากชุมชนในระยะพอเพียงที่จะไม่ถูกรบกวนการปฏิบัติการจากประชาชน และจะต้องไม่ทำให้ชุมชนนั้นกลายเป็นเป้าหมายร่วมกันกับฐานปฏิบัติการ

(๒) ฐานปฏิบัติการจะต้องอยู่ในที่ตั้งที่สามารถใช้วิธีการส่งกำลังเพิ่มเติมได้อย่างน้อยสองวิธี ตัวอย่างเช่น ถ้าหากวิธีการหลักในการส่งกำลังเพิ่มเติมคือ การส่งกำลังทางอากาศ ก็จะต้องมีการเตรียมวิธีการส่งกำลังอีกวิธีหนึ่งสำรองไว้ด้วย เช่น การส่งกำลังทางถนนหากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยให้สามารถใช้อากาศยานได้

(๓) ฐานปฏิบัติการของกรม จะต้องสามารถดำเนินการให้กับกองพันได้ในเรื่องการบังคับบัญชา, การควบคุม และสิ่งอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร, การสนับสนุนการช่วยรบ (พื้นที่สนับสนุนของกรม), ระบบงานสนับสนุนทางด้านกำลังพล, พื้นที่พักรอของหน่วย และกิจกรรมในด้านการข่าวกรอง ฐานปฏิบัติการของกรมโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในพื้นที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฐานปฏิบัติการของกองพัน ฐานปฏิบัติการของกรมจะดำเนินการสนับสนุนที่จำเป็นให้กับกองพันที่ออกปฏิบัติการด้านยุทธวิธีและยุทธการ และยังสามารถจัดเตรียมพื้นที่ให้กับที่ตั้งส่วนหลังที่มิได้ออกปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนหน้าของกองพัน (ขบวนสัมภาระของกองพัน)

(๔) ส่วนสนับสนุนการช่วยรบทั้งหมด ไม่ว่าจะปฏิบัติการจากฐานที่ตั้งของกองพันหรือกรมก็ตาม จะต้องมั่นใจว่าการปฏิบัติงานนั้นสามารถสนับสนุนวัตถุประสงค์โดยรวมของชาติได้ เนื่องจากการปฏิบัติการเหล่านี้มักจะต้องรวมถึงการปฏิบัติร่วมกันกับพลเรือนและประชาชนมากกว่าการปฏิบัติการทางยุทธวิธี กำลังพลที่เข้าปฏิบัติการจึงต้องมีความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศเจ้าบ้าน ซึ่งจะเป็นการป้องกันการปฏิบัติใด ๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จและการบรรลุวัตถุประสงค์ของชาติโดยรวม

(๕) ส่วนการสนับสนุนการช่วยรบ ซึ่งตามปกติแล้วมักจะปฏิบัติการจากฐานปฏิบัติการกองพัน ได้แก่ หน่วยเสนารักษ์, หน่วยซ่อมบำรุงและหน่วยส่งกำลัง หน่วยต่าง ๆ เหล่านี้เช่นเดียวกันยังสามารถปฏิบัติการจากฐานปฏิบัติการของกรมได้ ส่วนต่าง ๆ ที่เป็นส่วนเพิ่มเติมของการขนส่ง, การซ่อมบำรุง และการบริการด้านกำลังพล มักจะปฏิบัติการอยู่ในฐานปฏิบัติการของกรม ขนาดของแต่ละส่วนย่อมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนสนับสนุนที่ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนไม่ควรนำมาจากพื้นที่สนับสนุนต้นทาง ส่วนสนับสนุนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่ควรจะประกอบด้วยชุดต่าง ๆ ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติการทางยุทธวิธี หรือระบบงานทางยุทธการของหน่วย

๘ - ๑๑ การซ่อมบำรุง

การซ่อมบำรุง หมายถึง การปฏิบัติทั้งปวงเพื่อให้ยุทโธปกรณ์อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ หรือเพื่อดำรงรักษาให้ยุทโธปกรณ์นั้นยังคงอยู่ในสถานะเดิมของมัน ส่วนซ่อมบำรุงของกองพันจะตั้งอยู่ในภายในพื้นที่ฐานปฏิบัติการ (ขบวนสัมภาระรบ) และในฐานการสนับสนุนของกรม (ขบวนสัมภาระ) ชุดติดต่อประสานงานการซ่อมบำรุงจากหน่วยที่สนับสนุนกรม (กองร้อยซ่อมบำรุงสนับสนุนส่วนหน้า หรือกองพันสนับสนุนส่วนหน้า) ก็จะตั้งอยู่ในฐานปฏิบัติการนี้เช่นเดียวกัน หลักนิยมในการซ่อมบำรุง (ซ่อมในระยะห่าง แต่อยู่ส่วนหน้าให้มากเท่าที่จะทำได้) จะต้องถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ฐานปฏิบัติการมีขนาดเล็ก ด้วยเหตุผลดังกล่าว การซ่อมบำรุงส่วนหน้าส่วนใหญ่ นอกเหนือไปจากการซ่อมเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ จะดำเนินการอยู่ในฐานปฏิบัติการสนับสนุนของกรมภายในพื้นที่การรักษาความปลอดภัย ส่วนการซ่อมบำรุงที่อยู่ในฐานปฏิบัติการควรจะต้องเน้นความสำคัญในการทดแทนส่วนประกอบ และมุ่งเน้นไปที่การใช้ชุดประเมินความชำรุดเสียหาย และซ่อมบำรุงให้มากที่สุด

๘ - ๑๒ การวางแผนด้านการขนส่ง

ฝอ.๔ เป็นผู้วางแผนการขนส่งให้กับหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ ซึ่ง ฝอ.๔ นี้จะต้องพิจารณากำหนดเวลาเริ่มเคลื่อนย้าย และเวลามาถึงของสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลาย, เครือข่ายการขนส่งภายในประเทศ และการสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้าน

ก. ความต้องการด้านการขนส่ง จะถูกจำแนกออกเป็น ความต้องการทางยุทธวิธี และ มิใช่ทางยุทธวิธี การขนส่งทางยุทธวิธีจะมีสาระสำคัญอยู่ที่นำกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์เข้าไปทดแทนในพื้นที่ปฏิบัติการ ส่วนการขนส่งที่มิใช่ทางยุทธวิธีนั้น จะมีสาระสำคัญอยู่ที่การเคลื่อนย้ายกำลังพลและสิ่งอุปกรณ์ในลักษณะที่ไม่ใช่การรบ

ข. วิธีการหลักสองวิธีที่ใช้กับการปฏิบัติการปราบปรามกองโจร ได้แก่ การขนส่งด้วยรถยนต์บรรทุก และการขนส่งด้วยอากาศยาน วิธีการอื่นที่มีการใช้รองลงไป ได้แก่ การขนส่งทางรถไฟ, ทางยานพาหนะทางน้ำ และการขนส่งด้วยการบรรทุกสัตว์ต่าง

ค. การขนส่งทางยุทธวิธีโดยใช้อากาศยาน เป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความรวดเร็วและอ่อนตัว เมื่อไม่สามารถใช้อากาศยานได้ จึงหันมาใช้การขนส่งด้วยรถยนต์ หากจำเป็นต้องใช้การขนส่งด้วยรถยนต์บรรทุกแล้ว ชุดเฉพาะกิจด้านการส่งกำลังบำรุงจะต้องเพิ่มเติมด้วยหน่วยรถยนต์ บรรทุก การขนส่งประเภทนี้ต้องการการระวังป้องกันเพิ่มขึ้น เมื่อหน่วยได้เคลื่อนย้ายถึงที่หมายปลายทางแล้วทหารจะลงรถเดินเท้าเข้าไปปฏิบัติภารกิจ หน่วยบินทหารบกจะมีอยู่ในหน่วยระดับกองพลและสูงกว่าขึ้นไป อากาศยานสำหรับสนับสนุนการปฏิบัติการของกรมหรือหน่วยระดับต่ำกว่า จะจัดอยู่ในลักษณะของการขึ้นควบคุมทางยุทธการ หรือจัดตั้งไว้เพื่อให้การสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการ

ง. การขนส่งที่มิใช่ทางยุทธวิธี จะสำเร็จภารกิจได้ด้วยการใช้อากาศยานหรือรถยนต์บรรทุก ตามปกติแล้วการขนส่งที่มิใช่ทางยุทธวิธีจะใช้ขนส่งสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์และสนับสนุนการส่งกลับสายแพทย์ หน่วยรถยนต์บรรทุกอาจถูกจัดให้มาขึ้นสมทบกับหน่วยระดับกองร้อย หรือสูงกว่า การใช้รถยนต์บรรทุกขึ้นอยู่กับระยะทาง, การระวังป้องกัน, ภูมิประเทศ, เส้นทางที่สามารถใช้ได้ และอื่น ๆ

จ. การร้องขอการขนส่งด้วยรถยนต์บรรทุก จะดำเนินการผ่านทาง ฝอ.๔ ไปยัง ฝอ.๔ ของกรม และส่งต่อไปที่นายทหารฝ่ายการขนส่งของกองพล นายทหารควบคุมการเคลื่อนย้ายของกองพลจะจัดลำดับความเร่งด่วนและจัดหน่วยรถยนต์บรรทุกหรือร้องขอการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทัพภาค นอกจากนี้ ยังอาจมีการร้องขอการสนับสนุนการขนส่งเพิ่มเติมสำหรับโครงการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน

ฉ. การร้องขอการสนับสนุนจากอากาศยาน ทบ. จะดำเนินการผ่านทาง ฝอ.๓ ไปยัง ผช.สธ.๓ อากาศของกองพล ซึ่งจะเป็นผู้จัดลำดับความเร่งด่วนและภารกิจไปยังหน่วยบินของกองพล หรือร้องขอการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองทัพภาค

ช. เมื่อวางแผนสนับสนุนด้านการขนส่งในประเทศที่มีข่ายถนนในสภาพไม่ดี ผู้บังคับหน่วยอาจพิจารณาใช้การขนส่งทางน้ำ หากเป็นเช่นนั้น ยานขนส่งทางน้ำของกองทัพบกจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภารกิจการป้องกันภายในของประเทศ

๘ - ๑๓ หน่วยเสนารักษ์

หน่วยเสนารักษ์มีหน้าที่ในการอนุรักษ์กำลังรบที่ใช้ในการปราบปรามกองโจร ซึ่งจะปฏิบัติด้วยการเวชกรรมป้องกันและมาตรการสุขอนามัย รวมทั้งการให้การรักษาพยาบาลอย่างถูกต้อง ในการสนับสนุนการรักษาความมั่นคงและการพัฒนาภายในประเทศนั้น หน่วยเสนารักษ์และกำลังพลของหน่วยสามารถให้ความช่วยเหลือ, ให้คำแนะนำ และให้การฝึกอบรมแก่กำลังพลของหน่วยเสนารักษ์ของประเทศเจ้าบ้าน หน่วยต่าง ๆ เหล่านี้ยังอาจจัดการสนับสนุนทางการแพทย์อย่างจำกัด ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ในห้วงระยะเวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของประเทศเจ้าบ้าน และเพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับรัฐบาลนั้น

ก. นายสิบเสนารักษ์ จะอยู่ในหน่วยระดับหมวดและมีหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลฉุกเฉินในขีดความสามารถ นายสิบเสนารักษ์และพลเสนารักษ์จะปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผู้เจ็บป่วยที่จะต้องได้รับการส่งกลับจะได้รับการเตรียมการและเคลื่อนย้ายอย่างถูกวิธี

ข. นายแพทย์ และ/หรือผู้ช่วยนายแพทย์ ตามปกติแล้วจะกำกับดูแลการปฏิบัติงานของที่พยาบาลของกองพัน ในสถานการณ์การปราบปรามกองโจรนั้น ที่พยาบาลดังกล่าวจะอยู่ภายในฐานปฏิบัติการของกองพัน การปฏิบัติงานของที่พยาบาลจะประกอบด้วย :

(๑) การรับ, บันทึก, ตรวจสอบ, แยกประเภทผู้ป่วยเจ็บ และรักษาพยาบาลให้มี สุขภาพร่างกายปกติ พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจต่อไป

(๒) จัดให้มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินและเตรียมการส่งกลับผู้ป่วยเจ็บ

(๓) จัดให้มีการสนับสนุนทางด้านการแพทย์อย่างจำกัด ในการปฏิบัติงานตามแผนงานช่วยเหลือประชาชน

ค. ผู้ป่วยเจ็บอาจถูกเคลื่อนย้ายโดยตรงไปยังที่พยาบาลของกองพล ซึ่งมาตั้งอยู่ในฐานปฏิบัติการสนับสนุนของกรม หรืออาจถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนามของกองทัพภาค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บสาหัสเพียงใด หรือมีอาการป่วยหนักเพียงใด การส่งกลับผู้ป่วยเจ็บอาจกระทำได้โดยใช้ยานยนต์ทางภาคพื้นดิน แต่อย่างไรก็ตาม การส่งกลับที่นิยมใช้กันมากที่สุด ก็คือ การส่งกลับทางอากาศในสถานการณ์การปราบปรามกองโจร ทั้งนี้เนื่องจากมีความรวดเร็ว และมีระบบการรักษาความปลอดภัยในระหว่างการเคลื่อนย้าย

ง. สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์บางขั้นตอนอาจถูกข้ามขั้นไป และผู้ป่วยเจ็บอาจถูกส่งกลับไปยังระดับการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น ในกรณีที่เงื่อนไขของอาการป่วยถึงขั้น และมีเครื่องมือตลอดจนวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสม การส่งกลับผู้บาดเจ็บจะต้องไม่มีผลกระทบต่อความสำเร็จของภารกิจ

๘ - ๑๔ การสนับสนุนด้านการบริการกำลังพล

เพื่อรักษาไว้ซึ่งสภาพของกำลังรบที่มีประสิทธิภาพ, หน่วยปราบปรามกองโจรจำเป็นต้องมีการสนับสนุนด้านการบริการกำลังพล ซึ่งทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดของระบบงานสนับสนุนนี้จะเกิดขึ้นในขบวนสัมภาระซึ่งอยู่ในฐานปฏิบัติการของกรม (ดูรายละเอียดใน รส.๗ – ๒๐, ๗๑ - ๒ และ ๑๒ - ๖)

ก. ส่วนธุรการ (ฝอ.๑) จะตั้งอยู่ในฐานปฏิบัติการของกองพัน ร่วมกับ นายทหารส่งกำลัง (ฝอ.๔) และปฏิบัติงานในฐานะที่เป็นส่วนปฏิบัติเบื้องต้นในด้านการกำลังพลของหน่วยรบ บทบาทพื้นฐานของ ฝอ.๑ จะประกอบด้วยการบริหารข้อมูลข่าวสารที่สำคัญยิ่งในด้านการรบ เพื่อสนับสนุนกระบวนการแสวงข้อตกลงใจ และจัดกำลังพลทดแทนที่สูญเสีย, การไปรษณีย์ และการบริการกำลังพลด้านอื่น ๆ ข่าวสารสำคัญยิ่งต่อระบบงานกำลังพล จะต้องถูกรวบรวมและดำเนินกรรมวิธีอย่างทันเวลาและถูกต้องแม่นยำเพื่อที่จะส่งไปให้หน่วยบัญชาการช่วยรบใช้ในกรรมวิธีแสวงข้อตกลงใจ รวมทั้งจะต้องส่งไปยังหน่วยกำลังรบทุกระดับอีกด้วย ผบ.ร้อย.บก.จะอยู่ในขบวนสัมภาระของกองพันในฐานปฏิบัติการของกรม การจัดการในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ฐานปฏิบัติการของกองพันมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้

ข. การสนับสนุนด้านการกำลังพลให้กับผู้บังคับบัญชานั้น จะประกอบด้วยการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่.-

(๑) การทดแทนกำลังพล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับการประสานการสนับสนุน และการส่งกำลังพลทดแทน หรือส่งกลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสนามรบ ในระหว่างสถานการณ์ความขัดแย้งระดับต่ำ อาจไม่มีการทดแทนกำลังพลเป็นบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการจัดเฉพาะกิจ และความยืดเยื้อของความขัดแย้ง แต่อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้แล้ว การทดแทนอาจกระทำได้ทั้งเป็นบุคคล, ชุด, หมู่, หมวด หรือระดับหน่วยอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บังคับบัญชา

(๒) การจัดการกำลังพล ซึ่งเป็นการประเมินค่าอำนาจกำลังรบของหน่วย, การวางแผนการปฏิบัติการในอนาคต และมอบการทดแทนกำลังในสนามรบ การจัดการกำลังพลเป็นวิธีการประมาณความต้องการกำลังพลทดแทน การจัดการกำลังพลประกอบด้วยเทคนิค และกระบวนการแสวงข้อตกลงใจเพื่อให้ได้มาซึ่งการแบ่งมอบกำลังทดแทน และผลการประเมินขีดความสามารถในการสู้รบของหน่วยจากมุมมองของกำลังพล ซึ่งถือเป็นระบบงานที่มีความสำคัญยิ่ง ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังเฉพาะกิจ หน่วยอาจมีกำลังพลจากต่างเหล่า หรือกำลังพลประเภทอื่น ๆ

(๓) การจัดทำบัญชีกำล้งพลและการรายงานสถานภาพกำลังพล ซึ่งเป็นการจัดทำบัญชีรายชื่อทหารและรายงานสถานะเกี่ยวกับหน้าที่ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการแสวงข้อตกลงใจและการตัดสินใจในสนามรบ ระบบงานนี้อาจดำเนินการได้ในสถานที่ตั้งปกติในเวลาปกติสำหรับทหารที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายเข้าไปวางกำลังในพื้นที่ ระบบงานนี้ยังประกอบด้วย การรายงานสถานภาพการควบคุมบังคับบัญชา ซึ่งเป็นการบริหารจัดการอำนาจกำลังรบของกำลังพลในกองกำลังทางยุทธวิธี และเป็นการปรับแก้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างรายงานข้อมูลกำลังพลเร่งด่วนกับบัญชีกำลังพลที่จัดทำโดยละเอียด

(๔) การจัดการกำลังพลที่สูญเสีย เป็นการบันทึก, รายงาน และจัดทำบัญชีกำลังพลที่สูญเสียอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ กำลังพลที่บาดเจ็บสูญเสียจะต้องได้รับการดำเนินกรรมวิธีอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมีการรายงานด่วนทันทีหรือเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุ ตามกฎระเบียบที่ได้วางไว้

(๕) การปฏิบัติต่อเชลยศึกและพลเรือนที่ถูกกักกัน ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำนั้น หน่วยดำเนินกรรมวิธีเกี่ยวกับเชลยศึกของหน่วยทหารสารวัตรอาจไม่เหมาะสมที่จะใช้ดำเนินการ ดังนั้นจึงอาจใช้เจ้าหน้าที่ธุรการของชุมชนเป็นผู้ดำเนินกรรมวิธีเกี่ยวกับเชลยศึก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของ ผบ.กองกำลังเฉพาะกิจ

ค. การสนับสนุนด้านงบประมาณ และการปราบปรามการก่อความไม่สงบ ยังมีความอ่อนตัวพอที่จะสนับสนุนในสถานการณ์

การปฏิบัติการด้าน นิวเคลียร์ เคมี ชีวะ

การปฏิบัติการด้าน นิวเคลียร์ เคมี ชีวะ


การใช้วิธียิงสาร นชค. ที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง นับว่าเป็นวิธีที่ได้รับผล ในเมื่อกำลังของกองโจรเข้าปะปนอยู่ร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น การใช้อำนาจการยิง เช่น การยิงด้วยปืนใหญ่ หรือการใช้อาวุธจากทางอากาศจะต้องถูกหลีกเลี่ยง ในตอนที่ ๙ นี้จะเน้นถึงความสำคัญของการใช้ควัน และสารที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง เช่น กระสุนแก๊สน้ำตา หรือสารปราบจลาจล (ดูรายละเอียดใน รส.๓ - ๑๐๐, ๓ - ๔, ๓ - ๑๑ และ ๓ - ๑๐๑)









๗ - ๓๓ กระสุนควัน และสารปราบจลาจล

ควันเป็นตัวทวีคูณอำนาจการรบให้กับฝ่ายเรา และยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการลดประสิทธิผลของอาวุธ ซึ่งใช้แนวเส้นเล็งด้วยสายตา สารปราบจลาจลเป็นสารเคมีประเภทหนึ่งซึ่งกองทัพนำมาใช้ในการปฏิบัติการ สารเหล่านี้ไม่ถูกจัดอยู่ในประเภทของสารเคมีทางทหาร และเป็นสารที่ถูกนำมาใช้ด้วยความมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันกับสารเคมีที่ใช้ในสงครามเคมี การใช้ควันและสารเคมีปราบจลาจลนั้นจะต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง และมีการประเมินถึงผลที่เกิดกระทบต่อส่วนรวม, ทั้งทางด้านกายภาพและขวัญ เมื่อเปรียบเทียบกับข้อดีที่เกิดจากการใช้ (ดูรายละเอียดใน รส.๑๐๐ – ๒๐, ผนวก ข ในเรื่องขีดจำกัดเฉพาะกรณี)

ก. ควันสามารถใช้ปิดบัง และขัดขวางการตรวจการณ์ด้วยสายตาของกำลังกองโจรที่กระทำต่อกำลังทหารของฝ่ายปราบปราม รวมทั้งพื้นที่รวมสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้พรางที่ตั้งของอาวุธยิง, ที่ตั้งของหน่วยสนับสนุนทางการช่วยรบ, ตำบลส่งข้ามลำน้ำ, ที่หมาย และพื้นที่ส่งลงของกำลังเคลื่อนที่โจมตีทางอากาศ (ดูรายละเอียดใน รส.๓ – ๕๐)

ข. สารเคมีปราบจลาจล และสารทำลายพืช อาจถูกนำมาใช้เพื่อ.-

(๑) ทำให้พวกกองโจรที่ปะปนอยู่กับประชาชนนั้น ไร้ความสามารถในการปฏิบัติไปภายในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่จะไม่มีผลอย่างถาวรเกิดขึ้น ประชาชนจึงไม่ได้รับอันตราย

(๒) ทำให้ใบไม้หรือพืชพันธุ์ไม้เกิดอาการร่วงหล่น ทั้งนี้เพื่อมิให้ปกปิดกำบังการตรวจการณ์ และพื้นที่การยิง บริเวณรอบ ๆ ฐานที่มั่นของฝ่ายเรา

ค. เครื่องฉีดไฟ เป็นอาวุธที่มีประสิทธิผลอย่างมากในการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ อาวุธนี้ใช้ต่อต้านการซุ่มโจมตี, ป้องกันฐานที่มั่นถาวร และยังสามารถใช้เป็นอาวุธในการซุ่มโจมตีได้ด้วย

ง. สารเคมีปราบจลาจล ทำให้เกิดผลแพร่กระจาย ครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ในจำนวนมากมุ่งต่อพื้นที่นั้น สารนี้จะลดขีดความสามารถในการสู้รบของกองโจรลงไป และอาจถึงขั้นทำให้ยอมมอบตัว หรือหมดสติ

จ. สารเคมีปราบจลาจล ใช้ได้ทั้งในการปฏิบัติการรุกและรับ ซึ่งกองโจรขาดเครื่องมือตรวจการณ์และอุปกรณ์ป้องกันระบบการหายใจ สารประเภทนี้สามารถใช้เพื่อเสริมเพิ่มเติมอำนาจการยิงให้มีความสมบูรณ์ และทางที่ดีที่สุดควรจะใช้การยิงและการดำเนินกลยุทธ์ควบคู่ประกอบกันไป

(๑) สารเคมีดังกล่าวจะถูกนำมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติในเมื่อกองกำลังปราบปรามการก่อความไม่สงบ ต้องการทำให้พื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ไม่ปกติชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่ใช้สารที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต เมื่อกองกำลังหยุดการใช้สารเคมีประเภทนี้แล้ว ก็จะต้องเตรียมการป้องกันชั่วคราว และนำอาวุธนี้เตรียมเข้าเสริมที่มั่นตั้งรับ หรือใช้ช่วยเหลือในการถอนต้วเมื่อถูกเข้าโจมตีด้วยกำลังกองโจรที่เหนือกว่า สารเคมีประเทภนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถและความอ่อนตัวให้กับผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้เนื่องจากสามารถทำให้ใช้อำนาจกำลังรบได้อย่างมีประสิทธิผล โดยลดการบาดเจ็บและการตายได้เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในระหว่างการปฏิบัติการขยายผล สารเคมีเหล่านี้จะทำให้กำลังของกองโจรที่ปะปนอยู่กับประชาชน ไม่สามารถปฏิบัติการตอบโต้ได้

(๒) ในการปฏิบัติการรุกต่อกองโจรซึ่งตื่นตัว และกำลังถอนตัวหลบหนี หน่วยปราบปรามกองโจรสามารถใช้สารเคมีนี้ต่อเป้าหมาย โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตนเองออกจากที่กำบัง หรือเปิดเผยตนต่อการยิงของอาวุธเบา สารเคมีนี้จึงสามารถใช้ได้ผลอย่างดียิ่งในการตั้งรับ เมื่อกองโจรเคลื่อนกำลังเข้ามาอยู่ในระยะยิงหวังผลของอาวุธยิงสารเคมี

(๓) การใช้สารเคมีนี้อยู่ในขอบเขตจำกัดของนโยบายการใช้ในขณะนั้น, จำนวนปริมาณสารเคมีที่มีอยู่, วิธีการแพร่กระจายสาร (ไม่ว่าจะเป็นทางพื้นดินหรือทางอากาศ), รวมทั้งการวาดภาพการสู้รบของผู้บังคับหน่วยและฝ่ายอำนวยการ เมื่อระบบการติดต่อสื่อสารระหว่างภาคพื้นดินและทางอากาศมีไม่เพียงพอ การใช้สารเคมีนี้ทิ้งลงจากทางอากาศ จะกระทำโดยมีข้อมูลข่าวสารที่น้อยกว่าการใช้อาวุธอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ประสิทธิผลสูงสุดจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีการประสานงานกันด้วยทัศนสัญญาณ

๗ - ๓๔ การจัด

หน่วยทหารวิทยาศาสตร์ที่สมทบอยู่กับกองพลและกองทัพน้อย จะมีจำนวนหน่วยรองและกำลังพลอยู่น้อย ไม่พอเพียงต่อความต้องการในสถานการณ์การก่อความไม่สงบ ดังนั้น กำลังพลภายในหน่วยระดับกรมจึงจำเป็นต้องบริหารจัดการการใช้ กระสุนควัน, เครื่องฉีดไฟ และสารเคมีที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

ก. หน่วยภาคพื้นดิน หน่วยทางยุทธวิธีทางภาคพื้นดินทุกระดับ สามารถใช้สารเคมีประเภทนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยระดับหมวดถือเป็นหน่วยขนาดเล็กที่สุดที่มีขีดความสามารถในการควบคุมการใช้สารเคมีต่อต้านกองโจรในการปฏิบัติการทางยุทธวิธี ตัวอย่างเช่น หน่วยระดับหมวดได้มอบให้หมู่หนึ่งเป็นผู้ใช้สารเคมีปราบปรามจลาจล ทำการโจมตีต่อเป้าหมาย หน่วยขนาดใหญ่กว่า (กองร้อยและกองพัน) อาจใช้การแพร่กระจายสารเคมีนี้ทางอากาศต่อเป้าหมายซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า สารเคมีนี้อาจถูกใช้ในปริมาณเท่าใดก็ได้เพื่อให้ได้ผลต่อเป้าหมายตามต้องการ

ข. หน่วยบิน สารเคมีนี้อาจถูกแพร่กระจายโดยใช้อากาศยานปีกหมุน หรืออากาศยานปีกติดลำตัว จำนวนอากาศยานที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของเป้าหมาย และจำนวนปริมาณสารเคมีที่ต้องการใช้

ค. หน่วยทหารสารวัตร ประเทศเจ้าบ้าน (พลเรือน หรือทหาร) และทหารสารวัตรของสหรัฐ ฯ อาจใช้สารเคมีนี้เพื่อควบคุมฝูงชน หรือใช้เพื่อควบคุมสถานการณ์ในกรณีนักโทษก่อความวุ่นวาย

หน่วยอาจใช้สารเคมีประเภทนี้เพื่อช่วยในการนำเชลยศึกไปซักถาม หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสาร หลักฐาน สารเคมีจะถูกใช้เพื่อทำให้กำลังพลของกองโจรหมดความสามารถที่จะทำลายหลักฐานเอกสารได้



๗ - ๓๕ การปฏิบัติการ

หน่วยปฏิบัติการทำฉากควันเหมาะสมที่จะถูกนำมาใช้งานในสถานการณ์ที่ฝ่ายกองโจรเพิ่มขยายขอบเขตในการปฏิบัติโดยใช้กำลังขนาดกองร้อย,กองพันหรือใหญ่กว่าแต่ถ้าหากฝ่ายกองโจรใช้การปฏิบัติการด้วยการปิดลับ หรือใช้กำลังขนาดเล็กแล้ว หน่วยปฏิบัติการทำฉากควันก็มีโอกาสน้อยที่จะถูกนำมาใช้งาน

ก. การปฏิบัติการทางยุทธวิธี ประกอบหลักการดังต่อไปนี้

(๑) การปฏิบัติการด้วยวิธีรุก การแพร่กระจายสารเคมีทางอากาศและทางพื้นดินอาจถูกวางแผนให้ดำเนินการด้วยการยิงเตรียมลงบนที่หมาย สารเคมีอาจถูกยิงให้แพร่กระจายโดยยิงจากแนวออกตีเสมือนหนึ่งว่าสารเคมีนั้นเป็นกำลังทหารที่เคลื่อนที่ผ่านแนวออกตี การแพร่กระจายสารเคมีไปยังพื้นที่เป้าหมาย ควรจะหยุดดำเนินการไม่น้อยกว่า ๕ นาที ก่อนที่กำลังทหารของฝ่ายเดียวกันจะเข้าไปถึงที่หมาย กำลังของฝ่ายกองโจรในพื้นที่ที่หมายควรจะถูกตัดกำลังให้อ่อนลง จนไม่สามารถต้านทานหรือต้นทานได้เพียงเล็กน้อย

(ก) เมื่อจะใช้สารเคมีประเภทนี้กับกำลังของฝ่ายกองโจรที่หลบอยู่ตามถ้ำ หรืออุโมงค์, ควรเลือกวิธีการใช้กำลังอัดจากเครื่องอัดอากาศ หรือเครื่องปั๊มลม

(ข) ในการปฏิบัติการเคลื่อนกำลังเข้าโจมตีด้วยเฮลิคอปเตอร์ อาจใช้สารเคมีนี้แพร่กระจายจากทางอากาศ ลงไปยังที่หมายที่ทราบแล้ว หรือที่สงสัยว่าจะเป็นที่ตั้งของกองโจร ในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่บินลง ซึ่งจะช่วยการปฏิบัติของเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่บินคุ้มกัน หากการข่าวกรองยังไม่ระบุที่ตั้งที่แน่ชัดของฝ่ายกองโจรได้ ก็อาจใช้วิธีการเก็บสารเคมีนี้ไว้ก่อนเพื่อเตรียมพร้อมใช้ ตอบโต้ฝ่ายกองโจร ผู้ควบคุมอากาศยานหน้าจะสามารถอำนวยการปรับการยิงลงบนที่หมายได้อย่างมีประสิทธิผล พลประจำอากาศยานและกำลังส่วนโจมตีจะต้องเตรียมสวมหน้ากากป้องกันให้พร้อมก่อนที่จะบินลงสู่พื้น นอกจากนี้แล้วสารเคมีปราบจลาจลยังสามารถนำมาใช้ได้ในการยุทธ์ส่งทางอากาศและการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก

(ค) ในการปฏิบัติการต่อต้านการซุ่มโจมตีของฝ่ายกองโจร สารเคมีประเภทนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายและตัดรอนให้กองโจมอ่อนกำลังลง ซึ่งจะทำให้กำลังส่วนต่อต้านการซุ่มโจมตีสามารถเคลื่อนที่เข้าไปยังพื้นที่สังหารเพื่อจับกุมเชลยศึก ในการซุ่มโจมตีเวลากลางคืนนั้นสารเคมีประเภทนี้ใช้ได้ผลดีที่สุดเมื่อประกอบเข้ากับพลุสะดุด

(ง) เมื่อเข้าโจมตีต่อที่หมายที่แข็งแรง เช่น ที่มั่นที่เป็นป้อมสนาม, ที่ตั้งปืน และหลุมบังเกอร์ สารเคมีนี้จะทำให้ที่มั่นเหล่านั้นไม่สามารถใช้งานได้ผล และยังอาจทำให้กำลังพลที่อยู่ภายในที่มั่นปิดเหล่านั้นต้องออกมาข้างนอก และถูกจับเป็นเชลย หรือถูกสังหาร

(จ) ในการปฏิบัติการด้วยวิธีรุกแบบอื่น ๆ ที่อาจนำสารเคมีประเภทนี้มาใช้ได้ก็คือ การปฏิบัติการข้ามลำน้ำ, การลาดตระเวนด้วยการยิง, การขัดขวางและสะกัดกั้น, การรบกวน, การเข้าโจมตีฝ่ายกองโจรในพื้นที่ชุมชน และการต่อต้านการยิงของอาวุธต่อสู้อากาศยาน

(๒) การปฏิบัติการด้วยวิธีรับ การแพร่กระจายสารเคมีทางพื้นดินและทางอากาศสามารถใช้ได้ในการตั้งรับแบบเร่งด่วนและแบบประณีต การใช้สารเคมีดังกล่าวจะต้องใช้ให้ไกลจากที่มั่นตั้งรับ โดยให้ไปแพร่กระจายในบริเวณที่คาดว่าจะเป็นแนวทางการเคลื่อนที่ของกองโจร และบริเวณที่คาดว่ากองโจรน่าจะมาชะงักหรือติดอยู่ที่เครื่องกีดขวาง หรือลวดสะดุดที่เตรียมไว้ใช้แจ้งเตือนและขัดขวางการเข้าโจมตีของฝ่ายกองโจร

(ก) สารเคมีประเภทนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อเสริม หรือเพิ่มเติมในการตั้งรับแบบวงรอบในหลายลักษณะของที่มั่นค่อนข้างถาวร (ศูนย์กลางการติดต่อสื่อสาร, ฐานทัพอากาศ/สนามบิน, จุดที่ตั้งยาม, หมู่บ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกสนับสนุนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ บริเวณที่มั่นดังกล่าว คำสั่งการใช้ที่ชัดเจนและมาตรการควบคุมที่เข้มงวดจะต้องถูกกำหนดและจัดทำขึ้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการใช้สารเคมีโดยขาดความระมัดระวังหรือการเกิดอุบัติเหตุจากฝ่ายเดียวกัน

(ข) สารเคมีอาจถูกนำมาใช้ในสถานการณ์การต่อต้านการซุ่มโจมตี หากสามารถใช้ได้อย่างรวดเร็วต่อกำลังของฝ่ายกองโจรที่ซุ่มโจมตี

(๓) การปฏิบัติการด้วยวิธีร่นถอย อาจใช้สารเคมีนี้ช่วยในการผละออกจากการปะทะ ในกรณีที่ฝ่ายเราไม่สามารถใช้ที่มั่นในการต่อต้านการซุ่มโจมตีอย่างได้ผล นอกจากนี้หน่วยที่อยู่โดดเดี่ยวก็อาจใช้การยิงสารเคมีนี้ออกไปร่วมกับการใช้การยิงอาวุธประเภทอื่น ๆ เช่นเดียวกับการใช้ยิงเคลียร์เส้นทาง หรือใช้เพื่อการระวังป้องกันทางปีกในพื้นที่โล่งแจ้ง หรือตามเส้นทางการถอนตัว

ข. การปฏิบัติการควบคุมประชาชนและทรัพยากร สารเคมีปราบจลาจลอาจถูกนำมาใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้มาตรการปราบปรามการก่อเหตุรุนแรง และการควบคุมฝูงชน

ค. การปฏิบัติการจิตวิทยา สารเคมีประเภทนี้เป็นอาวุธที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างมากในด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ต่อกลุ่มบุคคลในประเทศ หรือท้องถิ่นที่ประชาชนมักจะมีความตื่นตระหนกและหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่เคยพบหรือไม่รู้จักมาก่อน และจะต้องมีการอธิบายถึงเหตุผลในการใช้ต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจและผลทางจิตวิทยาที่จะตามมา ตัวอย่างเช่น การใช้เพื่อป้องกันประชาชนให้พ้นจากอันตรายร้ายแรงของอำนาจการยิงด้วยอาวุธสงครามตามแบบ

๗ - ๓๖ การชำระล้างพิษ

เนื่องจากการนำเอาอาวุธ นชค. มาใช้ได้เป็นที่แพร่หลายกันมากทั่วโลก จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่ผู้บังคับหน่วยจะต้องประสบกับการใช้อาวุธเชื้อโรค หรืออาวุธเคมี ต่อกำลังทหารของตนในสภาพแวดล้อมของความขัดแย้งระดับต่ำ ดังนั้น ผู้บังคับหน่วยจะต้องประเมินภัยคุกคาม และเตรียมการที่จะชำระล้างพิษจากสารต่าง ๆ เหล่านั้น ให้กับกำลังพลของตน โดยพิจารณาจากปัจจัยทางการเมืองและปัจจัย METT – T (ดูรายละเอียดใน ผนวก ฉ หรือใน รส.๓ – ๕)

การปฏิบัติการจิตวิทยา

การปฏิบัติการจิตวิทยา


การสนับสนุนโดยการปฏิบัติการจิตวิทยา ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ การ ปจว.นี้ได้ถูกวางแผนและดำเนินการให้ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของการรักษาสันติภาพ, การป้องกันรักษาความมั่นคงภายในของต่างประเทศ, การปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุยามฉุกเฉิน หรือการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย ด้วยเหตุนี้ ผู้นำหน่วยจึงต้องพิจารณาหนทางปฏิบัติในทางทหาร และหนทางปฏิบัติที่มิใช่ทางทหาร ในแง่ที่มีผลกระทบด้านจิตวิทยา ในการปรับแก้หนทางปฏิบัติที่จะนำไปใช้ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ, ผู้นำหน่วยอาจจำเป็นต้องยอมละเว้นความได้เปรียบในทางยุทธวิธีในระยะสั้นไปบ้าง เพื่อสงวนรักษาไว้ซึ่งวัตถุประสงค์ทางจิตวิทยาในระยะยาว การมีความเข้าใจและการประสานแนวความคิดในด้าน การเมือง, สังคมจิตวิทยา และนโยบายด้านเศรษฐกิจ เข้ากับการวางแผนปฏิบัติการจิตวิทยาทางทหาร นับเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ การปฏิบัติการจิตวิทยาสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการรักษาสันติภาพได้ ๔ ลักษณะ คือ แผนงานด้านการข่าว/การศึกษาอบรม, การฝึกอบรมการรักษาสันติภาพให้กับกำลังพลของชาติอื่น ๆ, ให้การช่วยเหลือในฐานะที่ปรึกษาให้คำแนะนำในการปฏิบัติภารกิจการรักษาสันติภาพของมิตรประเทศ และให้การช่วยเหลือในฐานะที่ปรึกษาให้คำแนะนำแก่หน่วยงานราชการอื่น ๆ ภายในประเทศเดียวกัน (ดูรายละเอียดใน รส.๑๐๐ - ๒๐ และ รส.๓๓ - ๑)

๗ - ๒๙ การบูรณาการ

ในการป้องกันรักษาความมั่นคงภายในของต่างประเทศนั้น การสนับสนุนด้วยการ ปจว. จะถูกบูรณาการเข้าไว้ในแผนงานการช่วยเหลือประเทศอื่น ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาภายในประเทศ, การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาความปลอดภัย การ รปจ.ในการป้องกันรักษาความมั่นคงภายในของประเทศอื่น จะดำเนินการเพื่อ.-

• ช่วยเหลือประเทศเจ้าบ้านให้ได้รับการสนับสนุนจากชาติอื่น ๆ

• ช่วยเหลือประเทศเจ้าบ้านในการต่อสู้เอาชนะกลุ่มกบฏ หรือพวกก่อความไม่สงบ

• สร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับประเทศเจ้าบ้าน

• สร้างความนิยมให้กับกลุ่มที่เป็นกลางและประชาคมโลก

• ช่วยเหลือประเทศเจ้าบ้านในการสนับสนุนแผนงานการฟื้นฟูสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ถูกกักกัน

• จัดให้มีการสนับสนุนด้านการ ปจว.อย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ในด้านการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน

ก. บทบาทหลัก ในการให้ความช่วยเหลือด้านการรักษาความปลอดภัยในการป้องกันรักษาความมั่นคงภายในต่างประเทศ ประกอบด้วย การฝึกด้านการ ปจว.ทางทหาร, การช่วยเหลือด้านการให้คำแนะนำ และการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง หน่วยปฏิบัติการจิตวิทยาของสหรัฐ ฯ จะปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือประเทศเจ้าบ้านในอันที่จะปรับปรุงขีดความสามารถและแผนงานด้านการปฏิบัติการจิตวิทยา

ข. ส่วนปฏิบัติการจิตวิทยาของกองทัพบก อาจถูกจัดให้ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนในเหตุฉุกเฉินหรือแผนเผชิญเหตุที่กำหนดไว้ ในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุส่วนใหญ่นั้น การ ปจว.สามารถช่วยเหลือในการอธิบายถึงเหตุผลของการที่สหรัฐ ฯ ต้องเข้ามาปฏิบัติการทางทหาร และยังสามารถขยายผลการปฏิบัติโดยการชี้แจงเหตุผลและผลลัพธ์ของการปฏิบัติให้ฝ่ายเดียวกัน, ฝ่ายที่เป็นกลาง และฝ่ายข้าศึกศัตรูได้ทราบ

ค. การก่อการร้ายมีผลกระทบทางด้านจิตวิทยาอย่างใหญ่หลวง การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายจะรวมถึง การ ปจว. มุ่งตรงไปยังเป้าหมายของการรับข่าวของฝ่ายก่อการร้าย, ฝ่ายก่อการร้ายเอง และผู้ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย การ ปจว.จะช่วยเสริมเพิ่มเติมความเชื่อมั่น และกำลังใจในการขัดขวางและโจมตีการก่อการร้าย

๗ - ๓๐ ความรับผิดชอบของหน่วย

ผบ.หน่วย ปจว. และ ผบ.หน่วยที่รับการสนับสนุนมีหน้าที่ที่แตกต่างกันในการ ปจว. การปฏิบัติตามความรับผิดชอบเหล่านี้ ดังจะได้แสดงตามตัวอย่างข้างล่าง จะช่วยเสริมให้ภารกิจของผู้บังคับหน่วยได้สำเร็จลุล่วง (ดูรายละเอียดใน รส.๓๓ - ๑)

ก. ผบ.หน่วย ปจว.

(๑) พิจารณากำหนดเป้าหมายในการ ปจว. โดยใช้พื้นฐานจากภารกิจของหน่วยที่รับการสนับสนุน

(๒) เมื่อได้รับการร้องขอ หรือเมื่อมีความจำเป็น ให้จัดชุด ปจว. สมทบให้กับ สธ.๓ หรือ สธร.๓ ของหน่วยบัญชาการที่รับการสนับสนุน

(๓) ให้คำแนะนำกับผู้บัญชาการหน่วยที่รับการสนับสนุน ในเรื่องขีดความสามารถและขีดจำกัดในการ ปจว.

(๔) ให้คำแนะนำ, ช่วยเหลือ, ประสานการปฏิบัติ และกำหนดแผนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ ปจว. ในหนทางการปฏิบัติที่เหมาะสม

(๕) กำหนดหนทางการแบ่งมอบชุด ปจว. ที่เหมาะสมให้กับหน่วยบัญชาการที่รับการสนับสนุน

(๖) ดำเนินการ ปจว. เพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยบัญชาการที่รับการสนับสนุน

(๗) จัดทำข้อมูลตอบกลับเกี่ยวกับผลที่เกิดจากการ ปจว. ที่กำลังดำเนินการอยู่

(๘) ดำรงรักษาการประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องกับหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งมีความรับผิดชอบในเรื่องการ ปจว.

(๙) วิเคราะห์สถานการณ์ด้านจิตวิทยาของฝ่ายข้าศึก เพื่อค้นหาจุดอ่อน

ข. ผบ.หน่วยรับการสนับสนุน

(๑) สนธิหรือบูรณาการ การ ปจว. เข้ากับกรรมวิธีการแสวงข้อตกลงใจทางทหาร

(๒) ประเมินผลกระทบด้านจิตวิทยาของการแสดงกำลังทางทหาร, กิจกรรม และการปฏิบัติการ

(๓) ดำเนินการข่าวกรองสนับสนุนการ ปจว.

(๔) ประกันให้มั่นใจว่า ส่วนของเจ้าหน้าที่ ปจว. ได้เข้าถึงเจ้าหน้าที่ของส่วน หรือตอนอื่น ๆ ทั้งนี้จะช่วยประสานกิจกรรมการ ปจว. และให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารและข่าวกรองที่ต้องการ

(๕) ทบทวนแผนยุทธการ/ คำสั่งยุทธการ เพื่อประกันความมั่นใจว่า แผนและคำสั่งเหล่านั้นได้สนับสนุนวัตถุประสงค์ทางด้านจิตวิทยาทางการทหาร และจิตวิทยาระดับชาติ

(๖) จัดทำแนวทางและคำแนะนำให้กับ ผบ.หน่วยรอง และ ฝอ. ในเรื่องเป้าหมายของการ ปจว. และแผนการ ปจว.

(๗) บูรณาการการฝึก ปจว. เข้ากับแผนงานและโครงร่างการฝึกของหน่วย

(๘) ดำเนินการจัดหาเครื่องมือ, การบริหาร และการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง (จัดหาเครื่องมือ ปจว. พิเศษแต่เพียงส่วนน้อย) เพื่อสนับสนุนหน่วย ปจว.

ตอนที่ ๘

การปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน

การปฏิบัติการกิจการพลเรือน คือกิจกรรมทั้งหลายที่ฝ่ายทหารพึงปฏิบัติ เพื่อให้ได้มาซึ่งความร่วมมือจากประชาชน และประชาชนเหล่านั้นให้การสนับสนุนฝ่ายทหาร ทั้งนี้อาจช่วยลดการแทรกแซงหรือรบกวนจากฝ่ายประชาชนที่มีต่อผลสำเร็จ หรือเป้าหมายทางทหาร การปฏิบัติการกิจการพลเรือน ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างกำลังทหาร และหน่วยงานฝ่ายพลเรือน กับประชาชนในท้องถิ่นหรือภูมิภาคนั้น ๆ การปฏิบัติการกิจการพลเรือน ยังหมายรวมถึง การปฏิบัติการซึ่งหน่วยทหารเข้าไปดำเนินการแทนในกิจการซึ่งยามปกติดำเนินการโดยรัฐบาลพลเรือน (ดูรายละเอียดใน รส.๔๑–๑๐)

๗ - ๓๑ การสนับสนุนจากกิจการพลเรือน

ในการปฏิบัติการยุทธ์ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ การปฏิบัติการกิจการพลเรือนจะสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านพลเรือนของผู้บังคับหน่วยและหน่วยงานบริหารด้านพลเรือนของประเทศเจ้าบ้าน

ก. การปฏิบัติการกิจการพลเรือน ช่วยเหลือผู้บังคับหน่วยในเรื่องดังต่อไปนี้.-

(๑) พิสูจน์ทราบและกำหนดแหล่งทรัพยากรในท้องถิ่นที่มีอยู่ รวมทั้งสิ่งอำนวยความ สะดวก และการสนับสนุน

(๒) ประสานความต้องการของกองกำลังทหารภายนอก และให้การช่วยเหลือจากแหล่งทรัพยากร, สิ่งอำนวยความสะดวก และการสนับสนุนที่มีอยู่

(๓) ลดการแทรกแซง หรือรบกวนจากพลเรือนที่มีต่อการปฏิบัติการทางทหาร

(๔) ช่วยเหลือผู้บังคับหน่วย เพื่อผดุงรักษาขวัญของประชาชนในพื้นที่โดยการปฏิบัติ ซึ่งอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้จะสำเร็จลงได้ด้วยการจัดหาสินค้าและการบริการชั่วคราวผ่านทางหน่วยงานของรัฐบาล ไปยังประชาชนในท้องถิ่น

(๕) เสริมการปฏิบัติงานด้านการข่าวกรองในระดับยุทธวิธี

(๖) ปฏิบัติงานในฐานะของฝ่ายกิจการพิเศษ ในการพิจารณาด้านวัฒนธรรมที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติการทางทหาร

ข. การปฏิบัติการกิจการพลเรือน ช่วยเหลือหน่วยงานบริหารด้านพลเรือนของประเทศเจ้าบ้าน ในเรื่องดังต่อไปนี้.-

(๑) ช่วยเหลือรัฐบาลของประเทศเจ้าบ้าน เพื่อสนองความต้องการของประชาชน และดำรงรักษาเสถียรภาพและหนทางปฏิบัติของการบริหารงานด้านพลเรือน การปฏิบัติการกิจการพลเรือน อาจช่วยเหลือหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งเป็นของประเทศเจ้าบ้าน

(๒) จัดตั้งระบบการบริหารงานด้านพลเรือนเป็นการชั่วคราว เพื่อดำรงรักษากฎหมายและระเบียบ และเพื่อจัดให้มีการบริการด้านคุณภาพชีวิต จนกว่ารัฐบาลของประเทศเจ้าบ้านจะสามารถเข้าควบคุม และปฏิบัติงานได้ตามปกติ ทั้งนี้จะเป็นไปตามคำร้องขอของประเทศเจ้าบ้าน

(๓) จัดตั้งระบบการบริหารงานด้านพลเรือนในดินแดนของฝ่ายข้าศึกที่ฝ่ายเรายึดได้ ทั้งนี้จะต้องดำรงไว้จนกว่า หน่วยงานการบริหารในท้องถิ่นจะสามารถจัดตั้งระบบ ซึ่งสามารถให้การสนับสนุนวัตถุประสงค์ของฝ่ายทหาร และกำลังทหารของมิตรประเทศได้

๗ - ๓๒ การบรรลุความสำเร็จในภารกิจ

ลำดับความเร่งด่วนจะถูกกำหนดจากผู้บังคับหน่วย เพื่อลำดับงานหลักของกิจการพลเรือน ซึ่งจะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความสำเร็จในภารกิจของผู้บังคับหน่วยนั้น ๆ ฝ่ายอำนวยการและฝ่ายกิจการพิเศษซึ่งเกี่ยวข้องในด้านกิจการพลเรือน จะวางแผนและกำกับดูแลการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือนทั้งหมดภายในหน่วยบัญชาการ ซึ่งจะก่อให้เกิดความพยายามอย่างมากในการสนับสนุนภารกิจนี้ ในการปฏิบัติการเพื่อความมั่นคงภายในประเทศ โดยปกติมักจะกำหนดลำดับความเร่งด่วนให้กับการปฏิบัติงานกิจการพลเรือนของทหาร และการปฏิบัติการร่วมกันกับฝ่ายทหารในแผนงานการควบคุมประชาชนและทรัพยากร ซึ่งความสำคัญของระบบงานทั้งสองดังกล่าวนี้ มีมากพอที่จะกำหนดความสำเร็จและความล้มเหลวของภารกิจได้

ความพร้อมรบและการเตรียมพร้อม

สภาพแวดล้อมพิเศษ


ความพร้อมรบและการเตรียมพร้อมของกองทัพบก จะถูกดำรงรักษาให้คงอยู่เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมพิเศษ ซึ่งอาจต้องเผชิญโดยไม่คาดคิด ในตอนที่ ๕ นี้ จะประกอบด้วยโครงสร้างของข้อพิจารณาเพื่อประยุกต์หลักนิยมใช้กับการปฏิบัติการในสภาพพิเศษ เช่น ในป่าทึบ, ทะเลทราย, ภูเขา, สภาพอากาศหนาวจัด และในสภาพภูมิประเทศที่เป็นเมืองหรือชุมชน

๗ - ๒๒ ป่าทึบ

ภูมิภาคที่เป็นป่าทึบในทวีปเอเซีย, อาฟริกา และในครึ่งซีกโลกทางด้านตะวันตกจะเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความยากลำบาก ป่าจะมีสภาพแตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งป่าในเขตร้อนชื้นใกล้ศูนย์สูตร ป่าที่เกิดใหม่ และป่าที่ลุ่มที่มีน้ำท่วมขัง จนถึง ป่าซาวันนาในเขตร้อน สภาพโดยทั่วไปในพื้นที่ที่เป็นป่า จะมีพืชพันธุ์ไม้หนาทึบ, อุณหภูมิค่อนข้างสูงคงที่และมีความชื้น อีกทั้งมีฝนตกหนัก การปฏิบัติการทางทหารในป่าทึบจะมีผลกระทบจากปัจจัย ๒ ประการ คือ สภาพภูมิอากาศและพืชพันธุ์ไม้ ปัจจัยทั้งสองผสมกันจะจำกัดความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่, การตรวจการณ์, พื้นที่การยิง, การติดต่อสื่อสาร และการปฏิบัติเพื่อรวบรวมข่าวกรองในสนามรบ นอกจากนี้ปัจจัยดังกล่าวยังจำกัดการปฏิบัติการยุทธ์ และการดำรงขีดความสามารถของหน่วย ทั้งนี้จำเป็นต้องใช้มาตรการพิเศษที่เหมาะสมในการลดผลกระทบเหล่านั้น (ดูรายละเอียดใน รส.๙๐ - ๕)

๗ - ๒๓ ทะเลทราย

พื้นที่ทะเลทรายหลายแห่งในโลก เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อผลประโยชน์แห่งชาติของประเทศมหาอำนาจ และมีความจำเป็นที่ประเทศเหล่านั้นต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการในทะเลทรายให้กับทหารในกองทัพ ทะเลทรายอาจเป็นพื้นที่กึ่งแห้งแล้ง หรือพื้นที่แห้งแล้งเต็มที่ จำนวนน้ำที่พอเพียงเป็นปัจจัยเบื้องต้นในการวางแผนและการปฏิบัติการในทะเลทราย ทะเลทรายอาจมีสภาพอากาศที่หนาวจัดและร้อนจัดในแต่ละช่วงเวลา และอาจมีทัศนวิสัยดี หรือทัศนวิสัยที่เลวมากจากพายุทราย, แจ้งจัดหรือมีฝนตกทันทีทันใด, ขาดแคลนน้ำ หรืออาจมีน้ำท่วมฉับพลัน นอกจากนี้ยังอาจมีสภาพการจราจรที่ดี หรือเป็นเครื่องกีดขวางของกำลังทั้งสองฝ่าย ลักษณะบางประการของการปฏิบัติการยุทธ์ในทะเลทราย จะประกอบด้วย การใช้หน่วยทหารขนาดใหญ่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว, มีการตรวจการณ์ที่ดี และมีพื้นการยิงกว้างไกล จำเป็นต้องใช้การลวง และมักไม่ค่อยมีภูมิประเทศสำคัญ (ดูรายละเอียดใน รส.๙๐ - ๓)

๗ - ๒๔ ภูเขา

พื้นที่ที่เป็นภูเขามีอยู่ทั่วไปในโลก ตั้งแต่แถบขั้วโลก จนถึงเขตร้อน ภูเขามีอิทธิพลและผลกระทบต่อการปฏิบัติการทางทหารอย่างมาก การปฏิบัติการในพื้นที่ที่เป็นภูเขาจะมีลักษณะพิเศษ คือ จำกัดระยะยิงของอาวุธกระสุนวิถีราบ, มีความจำเป็นในการใช้การยิงแบบเล็งจำลองมากยิ่งขึ้น, ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่จะอยู่ที่การใช้พื้นที่ราบหรือหุบเขา, มีการสู้รบแบบกระจายกำลัง, มีความจำเป็นต้องใช้การปฏิบัติการบนพื้นที่สูงมากกว่าการปฏิบัติการบนเส้นหลักการคมนาคม และขีดความสามารถในการบังคับบัญชาและควบคุม จะลดน้อยลง (ดูรายละเอียดใน รส.๙๐ - ๖)

๗ - ๒๕ สภาพแวดล้อมในแถบพื้นที่อากาศหนาวจัด

สภาพแวดล้อมในแถบพื้นที่อากาศหนาวจัด ก็มีผลกระทบต่อการปฏิบัติการทางทหารอย่างมากเช่นเดียว ในฤดูหนาวจะมีลักษณะพิเศษ คือ ช่วงเวลากลางคืนยาวนาน, อากาศเย็นจัด และมีหิมะปกคลุมหนาและลึก ซึ่งจะลดขีดความสามารถในการใช้อาวุธ เนื่องจากความแข็งและเปราะของพื้นผิว, มีน้ำแข็งและละอองน้ำอยู่รอบ ๆ ศูนย์ปืนหรือกล้องเล็ง และมีน้ำแข็งจับเกาะตามเสาอากาศวิทยุ หรือเข้าไปเกาะในไส้กรองอากาศของเครื่องยนต์ สภาพอากาศหนาวจัดทำให้การปฏิบัติกิจต่าง ๆ เป็นไปด้วยความล่าช้า แม้แต่กิจขั้นพื้นฐานก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีผลทางด้านลบต่อสุขภาพและขวัญของทหาร (ดูรายละเอียดใน รส.๓๑ - ๗๑)

ตอนที่ ๖

การสนับสนุนจากหน่วยทหารสารวัตร

หน่วยทหารสารวัตรสามารถเข้าร่วมปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปฏิบัติหน้าที่และภารกิจเช่นเดียวกับยามปกติ หน่วยทหารสารวัตรจะปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจและสารวัตรทหารของประเทศเจ้าบ้าน หน่ายสารวัตรทหารสามารถจะปฎิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นเครื่องมือหรือแหล่งรวบรวมข่าวกรองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการจัดหน่วยและยุทธปกรณ์เพื่อปฎิบัติการควบคุมการใช้เส้นทางการจราจรในพื้นที่การรบ การรักษาความปลอดภัยเป็นพื้นที่ การควบคุมเชลยศึกและการปฏิบัติการตามกฎหมายและคำสั่ง ทหารสารวัตรสามารถเข้าปฎิบัติบัติหน้าที่ในฐานะของหน่วยกองกำลังในการพิทักษ์หน่วย และในบทบาทของการระวังป้องกัน

๗–๒๖ ภารกิจ

หน่วยทหารสารวัตรมีความเหมาะสมในกิจเฉพาะมากมายในแต่ละประเภทของการ :

ก. การปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ ซึ่งประกอบด้วย.-

(๑) การปฏิบัติการแบบตำรวจ

(๒) การปฏิบัติการตรวจค้น หน่วยทหารสารวัตรจะปฏิบัติการตรวจค้นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น โดยปฏิบัติหรือกำกับดูแลชุดตรวจค้น, การรักษาความปลอดภัยบุคคลหรือทรัพย์สินที่ยึดมาได้ และการส่งกลับเชลยศึก

(๓) การจัดตั้งจุดตรวจและจุดปิดกั้นถนน

(๔) การตรวจค้นในพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง

(๕) การควบคุมการก่อจลาจลหรือฝูงชน

(๖) การเข้าตีโฉบฉวย

(๗) การลาดตระเวนเฝ้าตรวจ

(๘) การซุ่มโจมตี

(๙) การป้องกันฐานที่มั่น

(๑๐) การระวังป้องกันเส้นหลักการคมนาคม โดยการลาดตระเวนตามถนนและพื้นที่, จัดตั้งตำบลควบคุมการจราจร, คุ้มกันขบวนยานยนต์ และการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบของตน หน่วยทหารสารวัตรสามารถเข้าทำการสู้รบกับกำลังส่วนย่อยของข้าศึกและสามารถปฏิบัติการเป็นส่วนตรึงกำลังไว้จนกว่าหน่วยรบจะเข้ามาถึงพื้นที่

(๑๑) การควบคุมประชาชนและทรัพยากร การปฏิบัติการในสถานการณ์การก่อความไม่สงบ อาจจำเป็นต้องใช้การปฏิบัติในลักษณะของตำรวจมากยิ่งขึ้น หน่วยทหารสารวัตรสามารถควบคุมประชาชนและแหล่งทรัพยากรของประเทศเจ้าบ้านได้ ซึ่งประกอบด้วย การแยกคัดเลือกบุคคล, การพิสูจน์ทราบบุคคล, การจัดทำทะเบียนควบคุม, การปราบปรามโดยใช้เคอร์ฟิวส์, การปฏิบัติการลาดตระเวนและจัดตั้งจุดตรวจ และการสืบสวนคดีอาชญากรรม

(๑๒) การดำเนินการเกี่ยวกับเชลยศึก หน่วยทหารสารวัตรดำเนินกรรมวิธี, ระวังป้องกัน และส่งกลับเชลยศึกและผู้ลี้ภัย โดยปฏิบัติตามหลักการใน รส.๑๙ - ๔๐, ตามคำสั่งของกองทัพบก และตามข้อตกลงของประเทศเจ้าบ้าน

(๑๓) การปฏิบัติการด้านการข่าวกรอง เนื่องจากการปฏิบัติของกองโจรมักจะมีส่วนคาบเกี่ยวกับอาชญากรรม ดังนั้น การปฏิบัติการแบบตำรวจของสารวัตรทหารจะสามารถพัฒนาระบบการข่าวและเครือข่ายของการข่าวได้ ซึ่งในการนี้จะสามารถผลิตข่าวกรอง และข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้

ข. การต่อสู้กับการก่อการร้าย ซึ่งประกอบด้วย.-

(๑) การรักษาความปลอดภัยวัตถุและสถานที่

(๒) การรักษาความปลอดภัยการปฏิบัติการ

(๓) การรักษาความปลอดภัยบุคคล หน่วยทหารสารวัตรจะจัดการรักษาความปลอดภัยทางภายภาพให้กับบุคคลและฐานที่มั่น ซึ่งอาจหมายรวมถึง ชุมชนที่ได้รับมอบหมายด้วย

ค. การรักษาสันติภาพ ซึ่งประกอบด้วย.-

(๑) การแสดงกำลัง

(๒) การตีโฉบฉวย

(๓) การปฏิบัติการอพยพเคลื่อนย้ายในสภาพที่มิใช่การรบ

(๔) การรักษาสันติภาพ

(๕) การช่วยชีวิตและการกู้ภัย

(๖) การสนับสนุนหน่วยงานพลเรือน

๗ - ๒๗ การจัดหน่วย

โดยทั่วไปแล้ว หน่วยระดับกรมจะได้รับหนึ่งหมวดสารวัตรทหารขึ้นสมทบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อาจมีการจัดหน่วยทหารสารวัตรจากกองร้อยสารวัตรทหารของกองพลมาขึ้นสมทบเพิ่มมากขึ้นได้ ในทำนองเดียวกันอาจมีการจัดสารวัตรทหารจากกองทัพน้อยมาขึ้นสมทบ ขนาดและการประกอบกำลังจะขึ้นอยู่กับ :

• ภารกิจและขนาดของกองกำลังเผชิญเหตุ

• ท่าทีของประชาชนในท้องถิ่น

• จำนวนและการใช้เส้นหลักการคมนาคม

• คุณภาพของเส้นหลักการส่งกำลังบำรุง, ซึ่งอาจแบ่งออกเป็นเส้นทางย่อย ๆ ต่อระยะออกไป และมีจุดควบคุมมากมาย

• ความยากง่ายในการเข้าถึงสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นถึงขั้นวิกฤติ

• จำนวนของสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสูงสุด และตำบลส่งกำลังที่ต้องการการระวังป้องกัน

• ชนิดของภูมิประเทศ

๗ - ๒๘ ชุดสุนัขทหาร

ชุดสุนัขทหารสามารถให้การสนับสนุนได้ในทุกประเภทของสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ สุนัขทหารมีการแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด คือ สุนัขยามลาดตระเวน, สุนัขลาดตระเวน/ค้นหายาเสพติด และสุนัขลาดตระเวน/ค้นหาวัตถุระเบิด

ก. สุนัขยามลาดตระเวน เป็นสุนัขที่สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบที่สุดในบรรดาสุนัขทหาร ด้วยการประกอบกำลังและจัดให้มีการควบคุมได้ตลอดเวลา สุนัขยามเหล่านี้สามารถปฏิบัติงานใกล้ชิดกับประชาชนได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้สายจูงหรือไม่ใช้ก็ตาม สุนัขยามจะปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีลักษณะตามธรรมชาติที่ค่อนข้างเข้ากับผู้คนได้ดี, แต่สุนัขยามก็สามารถสืบค้นและแยกแยะผู้ที่เป็นอาชญากรทั้งในภารกิจการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ และในสถานการณ์ของการปราบปรามตามกฎหมาย พวกมันจะเข้าทำร้ายบุคคลตามคำสั่งของผู้บังคับสุนัข และสามารถถูกเรียกกลับมาจากการบุกเข้าทำร้ายได้ สุนัขยามได้ถูกฝึกมาเพื่อสืบค้นและค้นหาบุคคลที่แปลกปลอม หรือไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในอาคาร หรือในพื้นที่เปิด และสุนัขยามบางตัวก็สามารถดมกลิ่นหรือสะกดรอยคนร้ายได้ สุนัขยามและผู้บังคับสุนัขจะได้รับการฝึกร่วมกันในศูนย์ฝึกสุนัขทหาร ผู้บังคับสุนัขจะได้รับการฝึกเป็นเวลา ๖ สัปดาห์ ในเรื่องการดูแลสุนัขยาม

(๑) การฝึก

(ก) พื้นฐานการเชื่อฟัง - การนั่ง, การรอ, การเดินตาม, การหมอบ และอื่น ๆ

(ข) การฝึกระเบียบแถว - การปฏิบัติตามระเบียบวินัยร่วมกับสุนัขอื่น ๆ หรือ ผู้บังคับสุนัข

(ค) การลาดตระเวน - การค้นหาในพื้นที่ป่าหรือในสนาม และการเตือนให้ผู้บังคับสุนัขได้ล่วงรู้ถึงการเข้ามาของผู้บุกรุก

(ง) การทำร้ายและการทำให้หวาดกลัว - เพื่อตอบโต้การปฏิบัติของผู้บุกรุกหรือ ฝ่ายศัตรู ตามคำสั่งของผู้บังคับสุนัขที่สั่งให้เข้าโจมตี

(จ) การค้นหาภายในอาคาร - การค้นหาภายในตัวอาคารโดยใช้สายจูงหรือ/ไม่ใช้ และเข้าโจมตีทันทีเมื่อค้นพบผู้บุกรุก

(ฉ) การสะกดรอย - การตามกลิ่นของบุคคล, ซึ่งทิ้งร่องรอยไว้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง, ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิประเทศใดก็ตาม

(ช) การปฏิบัติเมื่อเกิดการยิงปืน- ฝึกให้สุนัขทหารมีปฏิกริยาที่ไวต่อเสียงปืน โดยจะปฏิบัติในทรงตรงกันข้าม หรือหลบหลีกภัย ไม่ว่าจะเป็นเสียงปืนของผู้บังคับสุนัขหรือผู้อื่น

(ซ) การลาดตระเวนบนยานพาหนะ - ฝึกให้สุนัขยามอยู่บนยานพาหนะอย่างสงบเงียบในขณะที่ผู้บังคับสุนัขกำลังขับขี่ยานพาหนะนั้นอยู่ โดยที่สุนัขยามจะไม่แสดงอาการดุร้ายต่อผู้คนอื่น ๆ

(๒) การใช้งาน

(ก) การเข้ายาม - เดินยามหรือเคลื่อนที่ไปกับยานพาหนะ, ปฏิบัติการเมื่อเกิดสัญญาณแจ้งเตือนภัย, ตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการระวังป้องกันอย่างเข้มงวด และอื่น ๆ

(ข) การตรวจค้นภายในอาคาร - ค้นหาผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่าใช้สารวัตรทหาร

(ค) การควบคุมฝูงชน - ให้อยู่นอกระยะสายตาจนกว่าจะต้องการใช้งาน, สุนัขยามเหล่านี้สามารถใช้ปฏิบัติงานได้เมื่อเกิดการเผชิญหน้ากันโดยตรง

(ง) การสะกดรอย/การลาดตระเวน - ค้นหาผู้สูญหาย, ผู้บาดเจ็บ, ผู้หลงทาง, นักโทษ, เชลยศึก หรืออาชญากรที่กำลังหลบหนี

(จ) งานด้านกิจการพลเรือน - ใช้ในการแสดงบขีดความสามารถและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน

(๓) วิธีการแจ้งเตือน

(ก) ในการตรวจค้นภายในอาคาร-ฝึกให้บุกเข้าทำร้าย, ขู่คำราม, เห่า และอื่น ๆ

(ข) การลาดตระเวน - ฝึกให้แจ้งเตือนให้ผู้บังคับสุนัขทราบถึงการเข้ามาของผู้บุกรุก โดยมิให้ผู้บุกรุกรู้สึกตัว

ข. สุนัขลาดตระเวน/ค้นหายาเสพติด สุนัขทหารประเภทนี้เป็นสัตว์ที่มีความชำนาญอย่างสูง ซึ่งภารกิจของพวกมัน คือการสืบค้นแหล่งซุกซ่อน หรือการขนย้าย กัญชา, เฮโรอีน และสารอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน สุนัขประเภทนี้เป็นสัตว์ที่มีคุณค่า ทั้งนี้เนื่องจากได้ถูกฝึกมาในขั้นแรกให้ทำหน้าที่สุนัขยาม ดังนั้น พวกมันจึงสามารถปฏิบัติงานได้เช่นเดียวกับสุนัขยาม และยังปฏิบัติงานบางอย่างได้มากกว่า สุนัขทหารประเภทนี้จะได้รับการฝึกร่วมกับผู้บังคับสุนัขที่ศูนย์ฝึกสุนัขทหาร ผู้บังคับสุนัขจะได้รับการฝึกเป็นเวลา ๔ สัปดาห์ ในเรื่องวิธีการตรวจค้น, กลิ่นของยาเสพติดที่แตกต่างกัน และคุณลักษณะของยาเสพติด, การแจ้งเตือนของสุนัข และอื่น ๆ ถึงแม้ว่าผู้บังคับสุนัขจะได้รับการฝึกอย่างช่ำชองที่ศูนย์ฝึก แต่สุนัขและผู้บังคับสุนัขจะต้องได้รับการฝึกร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงรักษาทักษะและความชำนาญ

(๑) การฝึก สุนัขลาดตระเวน/ค้นหายาเสพติด จำเป็นต้องได้รับการฝึกเพื่อดำรงรักษาทักษะ และความชำนาญในการปฏิบัติทุกลักษณะของสุนัขยาม และเพิ่มเติมในเรื่องการสืบค้นด้วยการ ดมกลิ่น :

• กัญชา

• เฮโรอีน

• โคเคน

• ฝิ่น

(๒) การใช้งาน สุนัขลาดตระเวน/ค้นหายาเสพติด มีทักษะและความชำนาญในทุกลักษณะการปฏิบัติของสุนัขยามลาดตระเวน และยังสามารถสืบค้นหาสิ่งของต้องห้าม หรือสิ่งอุปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามโดยใช้การปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกับการค้นหายาเสพติด

(๓) ภารกิจ

(ก) ภารกิจการค้นหายาเสพติดจะถูกจัดทำเป็นตารางเวลาการปฏิบัติและมอบให้กับผู้บังคับสุนัข

(ข) ชุดสุนัขทหารค้นหายาเสพติดจะเดินทางไปยังหน่วย เพื่อรับภารกิจ และรายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร เพื่อดำเนินการชี้แจง บรรยายสรุป

(ค) จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการค้นหายาเสพติด

(ง) เมื่อสุนัขมีท่าทีแจ้งเตือนในบริเวณห้องใดห้องหนึ่งหรือบ่อน้ำพุหรืออื่นๆ ผู้บังคับสุนัขจะต้องรีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อรับอนุมัติให้ปฏิบัติภารกิจการค้นหา หรือปฏิเสธภารกิจนั้น

(จ) หากได้รับการอนุมัติให้ทำการตรวจค้นในพื้นที่นั้น การตรวจค้นจะเริ่ม

ดำเนินการโดยใช้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา

(ฉ) หากไม่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการตรวจค้น, ภารกิจก็จะถูกยกเลิก

(๔) ประเภทของการแจ้งเตือน

(ก) การปฏิบัติเชิงรับ - เมื่อพบสิ่งที่ต้องสงสัย, สุนัขลาดตระเวนจะถูกฝึกให้นั่งรอ ณ จุดนั้น เพื่อรอผู้บังคับสุนัข

(ข) การปฏิบัติเชิงรุก - เมื่อพบสิ่งที่ต้องสงสัย, สุนัขลาดตระเวนจะถูกฝึกให้เข้าทึ้ง และกัดบริเวณนั้น

ค. สุนัขลาดตระเวน/ค้นหาวัตถุระเบิด สุนัขลาดตระเวนประเภทนี้จะมีประสาทสัมผัสพิเศษในเรื่องการดมกลิ่น และถูกฝึกให้สามารถแยกแยะกลิ่นของวัตถุระเบิดชนิดต่าง ๆ ได้มากมาย สุนัขลาดตระเวนประเภทนี้จะถูกคัดเลือกมาจากสุนัขยามลาดตระเวน และผ่านการฝึกพิเศษ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานที่ยากลำบากนี้ได้ สุนัขลาดตระเวนประเภทนี้และผู้บังคับสุนัขจะได้รับการฝึกเป็นชุดปฏิบัติการร่วมกัน ณ ศูนย์ฝึกสุนัขทหาร ทั้งนี้จะต้องได้รับการฝึกจนสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างน้อย ๙๕ เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านั้น

(๑) การฝึก สุนัขลาดตระเวน/ค้นหาวัตถุระเบิด จำเป็นต้องมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานในลักษณะของสุนัขยามลาดตระเวน และเพิ่มเติมด้วยขีดความสามารถในการค้นหาวัตถุระเบิดชนิดต่าง ๆ

(๒) การใช้งาน สุนัขลาดตระเวน/ค้นหาวัตถุระเบิด จะมีขีดความสามารถและถูกใช้งานในลักษณะเดียวกับสุนัขยามลาดตระเวน และสามารถใช้ตรวจค้นวัตถุระเบิดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานทั้งของสารวัตรทหาร และชุมชนพลเรือน สุนัขลาดตระเวนประเภทนี้ยังสามารถใช้ในภารกิจการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ, รักษาความปลอดภัยตำบลจ่าย, คุ้มกันการเคลื่อนย้ายเงิน และอื่น ๆ

(๓) ประเภทของการแจ้งเตือน ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนหลายประการ สุนัขลาดตระเวน/ค้นหาวัตถุระเบิดจึงถูกฝึกให้ใช้การแจ้งเตือนด้วยการปฏิบัติเชิงรับ

การปฏิบัติการยุทธ์

ตอนที่ ๒


การสนับสนุนจากทหารช่าง

การปฏิบัติการยุทธ์ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ มีความจำเป็นต้องใช้การสนับสนุนจากทหารช่างเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุผลทั้งทางด้านยุทธวิธี และทางด้านจิตวิทยา

๗ - ๙ ภารกิจ

พื้นที่ปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ โดยทั่วไปมักจะมีข่ายถนนสภาพไม่ดีนัก ระบบถนน, ฐานที่ตั้งกองกำลัง และสนามบิน จึงมักจะต้องถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ช่วยในการบรรลุความสำเร็จของภารกิจ กำลังทหารที่เข้าร่วมปฏิบัติการยุทธ์ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำต้องการการสนับสนุนจากทหารช่างทั้งในด้านการสู้รบ และการดำรงความต่อเนื่องของงานทางด้านการช่าง ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ทุ่นระเบิด/กับระเบิด ภายในพื้นที่ปฏิบัติการ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความต้องการและความจำเป็นที่จะต้องมีทหารช่างสนาม งานทางด้านการช่าง เพื่อความต่อเนื่อง จะช่วยพัฒนาปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในการส่งกำลังบำรุง และโครงสร้างภายในของการขนส่ง ซึ่งกำลังทหารของฝ่ายเราจำเป็นต้องใช้ ทหารช่างจะให้การสนับสนุนทุกภารกิจของทหารช่างในสนามรบในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ

ก. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ เป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากการปรับปรุงความสามารถในการเคลื่อนที่ของหน่วยดำเนินกลยุทธ์พร้อมกับสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็น ด้วยการลดผลที่เกิดจากเครื่องกีดขวาง หรือทำให้เครื่องกีดขวางนั้นไม่มีผลในการใช้งาน ตัวอย่างของการปฏิบัติการเพื่อความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ก็คือ การเตรียมพื้นที่บินลง, งานการสร้างถนนในการรบ, การสร้างสะพานเพื่อเข้าโจมตี, การรื้อถอนเครื่องปิดกั้นถนน, การเจาะเครื่องกีดขวาง, การกวาดสนามทุ่นระเบิด, การรื้อถอนกับระเบิด และการลาดตระเวนเส้นทาง

ข. การต่อต้านความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ เป็นผลลัพธ์ที่ได้มาจากการลดขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ของข้าศึก ด้วยการสร้างเครื่องกีดขวาง เครื่องกีดขวางบางชนิดอาจทำลายเป้าหมายได้ด้วย แต่ส่วนมากแล้วเครื่องกีดขวางจะเป็นตัวช่วยเสริมเพิ่มประสิทธิภาพของอาวุธ ตัวอย่างของเครื่องกีดขวางตามแบบ ได้แก่ สนามทุ่นระเบิด, ลวดหนามกระโจมสูงและต่ำ, เครื่องปิดกั้นถนน และฉากขัดขวาง เครื่องกีดขวางเหล่านี้จะถูกสนธิเข้าไปอยู่ในแผนดำเนินกลยุทธ์ และมีการคุ้มครองด้วยการตรวจการณ์และการยิง

ค. ความอยู่รอดในสนามรบ เป็นผลของการพัฒนาการป้องกันที่มั่น, ที่มั่นสู้รบ และเครื่องกีดขวางป้องกันตน ตัวอย่างได้แก่ การสร้างที่มั่นตั้งรับแบบวงรอบขึ้นในฐานปฏิบัติการ, ที่บังคับการ, พื้นที่บินลง, สถานที่ตั้งทางการแพทย์, ที่กำบัง และคลังเก็บสิ่งอุปกรณ์ รวมทั้งการสร้างป้อมสนาม

ง. ภารกิจทางการช่างเพื่อความต่อเนื่อง เพิ่มเติมจากความช่วยเหลือวัตถุประสงค์แห่งชาติ, การสร้างอาคารสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสนับสนุนรัฐบาล หรือส่วนงานทางด้านพลเรือน และการให้การสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน อาจกลายเป็นศูนย์กลางของการปฏิบัติการ ทหารช่างที่อยู่ในอัตราการจัดสามารถปฏิบัติงานทางการช่างเพื่อความต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนหน่วยกำลังรบ, หน่วยทหารช่างที่มาให้การสนับสนุนเพิ่มเติมจะมีความจำเป็นในเมื่อมีความต้องการการสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น หน่วยเครื่องมือหนักมีความสำคัญมากที่สุดในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางการส่งกำลังบำรุง, ถนน และสนามบิน ตัวอย่างของภารกิจทางการช่างโดยทั่วไป ได้แก่.-

• การสร้างและซ่อมแซมถนน

• การสร้างอาคารที่พักชั่วคราวให้กับประชาชนในท้องถิ่น

• การซ่อมสร้างสะพาน

• การช่วยเหลือในการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน

• การจัดตั้งตำบลจ่ายน้ำประปา และหากมีความจำเป็นก็อาจต้องใช้การขุดเจาะบ่อบาดาล

จ. งานแผนที่ทางด้านการช่าง จะช่วยดำเนินการในด้านข้อมูลเกี่ยวกับภูมิประเทศให้กับผู้บังคับบัญชา การปฏิบัติงานภูมิมาปนวิทยาในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ประกอบด้วย ระบบงานการวิเคราะห์ภูมิประเทศ และการผลิตงานทางด้านภูมิมาปนวิทยา ทหารช่างทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนักวิเคราะห์ภูมิประเทศและเป็นผู้ช่วยเหลือทหารเหล่าอื่น ๆ ให้ใช้ประโยชน์จากพื้นดินได้อย่างสูงสุด การวิเคราะห์ภูมิประเทศเป็นกระบวนการในการแปลความหมายทั้งจากลักษณะภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ รวมทั้งอิทธิพลของสภาพลมฟ้าอากาศที่มีต่อสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าว ให้ได้มาซึ่ง ผลของการทำนายว่าจะมีอิทธิพลต่อการปฏิบัติการทางทหารอย่างไรและเพียงใด ตัวอย่างผลการวิเคราะห์ภูมิประเทศ ได้แก่ การเคลื่อนที่ผ่านภูมิประเทศ (ในสภาพอากาศชื้น/อากาศแห้ง), เส้นทางการคมนาคม, การข้ามลำน้ำ และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการกำบังและการซ่อนพราง ผลการวิเคราะห์ภูมิประเทศมักจะถูกจัดอยู่ในประเภทของสิ่งที่มีขีดจำกัดสำหรับการใช้ของฝ่ายอำนวยการ : ผลงานทางด้านภูมิมาปนวิทยาของการเขียนภาพจากแผนที่, การนำผลงานเหล่านั้นไปผลิตเพิ่มเติมเพื่อการใช้งาน และผลผลิตจากข้อมูลการสำรวจทางด้านภูมิมาปนวิทยา ขีดความสามารถในการผลิตงานเหล่านั้นจะสร้างสิ่งต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ แผ่นบริวาร ยุทธการ และข่าวกรอง, แผนที่ภาพถ่าย, สิ่งอุปกรณ์แสวงเครื่องใช้งานแทนแผนที่, แผ่นบริวารและแผ่นภาพแสดงการวิเคราะห์ภูมิประเทศ และพิกัดที่ตั้งที่แน่นอนที่ได้จากการสำรวจทางแผนที่

๗ - ๑๐ การจัด

ผู้บังคับบัญชาอาจได้รับการสนับสนุนจากทหารช่างในหน่วยระดับกองร้อยจากทหารช่างในกองพล หน่วยและส่วนอื่น ๆ จากกองพันทหารช่างของกองพลมักจะมีความจำเป็นในขั้นพื้นฐาน หน่วยทหารช่างจากกองทัพน้อย และกองทัพบกอาจได้รับการจัดให้มาขึ้นสมทบกับกองพันทหารช่าง หรือวางไว้ในพื้นที่สำหรับสนับสนุนโดยตรง เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่โดดเดี่ยวผู้บังคับหน่วยอาจได้รับมอบหน่วยทหารช่างให้มาขึ้นสมทบ ผู้บังคับหน่วยนั้นต้องประสานการปฏิบัติกับหน่วยอื่น ๆ เพื่อให้มีการสนับสนุนอย่างครบถ้วนในเรื่องการช่วยรบ

๗ - ๑๑ การระวังป้องกัน

หน่วยทหารช่างที่มาให้การสนับสนุนการปฏิบัติของกองกำลังเฉพาะกิจ ต้องการการระวังป้องกันเพิ่มมากขึ้น ทหารช่างจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทั้งหมดในการพบปะกับประชาชนในระหว่างขั้นตอนของงานการช่วยเหลือประชาชน ถึงแม้ว่าทหารช่างจะมีขีดความสามารถในการระวังป้องกันตนเอง แต่ขีดความสามารถในด้านการช่างก็อาจถูกนำมาใช้ไม่ได้อย่างเต็มที่ หากทหารช่างจะต้องจัดการระวังป้องกันให้กับตนเอง ดังนั้นผู้บังคับบัญชาจึงจำเป็นต้องมอบหมายภารกิจการระวังป้องกันนี้ให้กับทหารราบ หรือทหารสารวัตร

๗ - ๑๒ ทหารช่างทำการรบแบบทหารราบ

ทหารช่างสนามสามารถปฏิบัติภารกิจแบบทหารราบได้เป็นภารกิจรองในระหว่างการรบ โดยจะถือเป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น อำนาจตัดสินใจสั่งใช้ทหารช่างเข้าทำการรบแบบทหารราบนั้นอยู่ที่ผู้บัญชาการกองพล นอกจากนี้ยังอาจใช้ทหารช่างเป็นผู้ฝึกในเรื่อง การจัดให้มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ขั้นพื้นฐาน, การต่อต้านความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และทักษะพื้นฐานในเรื่องความอยู่รอดในสนามรบ ทหารช่างจะมีบทบาทมากในภารกิจการช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แห่งชาติมากกว่าที่จะใช้ในบทบาทของทหารราบ การที่จะใช้ทหารช่างรบแบบทหารราบนั้นจะมีข้อพิจารณา ได้แก่.-

• เมื่อถูกเข้าโจมตีฐานที่มั่น

• เมื่อหน่วยทางยุทธวิธีทั้งหมดถูกใช้งานไปแล้ว และเกิดมีภัยคุกคามขึ้นกระทันหัน

• การใช้งานในลักษณะของกองหนุน เมื่อภัยคุกคามบีบบังคับให้ใช้กองหนุนที่มีอยู่เดิมเข้าปฏิบัติการทั้งหมด (ดูรายละเอียดใน รส.๕ – ๑๐๐)

เมื่อใช้ทหารช่างเข้าทำการรบแบบทหารราบ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มเติมอำนาจการยิงสนับสนุนให้

ตอนที่ ๓

การสนับสนุนจากหน่วยบินทหารบก

หน่วยบินทหารบกสามารถให้การสนับสนุนแก่กำลังทหารของฝ่ายเรา, กำลังทหารของประเทศเจ้าบ้าน หรือกองกำลังเฉพาะกิจชั่วคราวได้ ขีดความสามารถของหน่วยบินทหารบกในการสนับสนุนจะมีผลทางยุทธวิธีต่อหน่วยที่รับการสนับสนุน หน่วยบินทหารบกจะช่วยเหลือผู้บังคับหน่วยดำเนินกลยุทธ์ในเรื่อง งานด้านการข่าวกรอง, ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่, อำนาจการยิง, การบังคับบัญชาและการควบคุม, การติดต่อสื่อสาร และระบบงานด้านการสนับสนุนทางการช่วยรบ (การใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตีจะมีคำอธิบายในรายละเอียดในตอนที่ ๑) ในตอนที่ ๓ นี้จะอธิบายในภารกิจอื่น ๆ และการจัดหน่วยบินสนับสนุน





๗ - ๑๓ ภารกิจ

ภารกิจสนับสนุนในรูปแบบปกติ, นอกเหนือจากการปฏิบัติการของเฮลิปคอปเตอร์โจมตี, หน่วยบินทหารบกสามารถให้การสนับสนุนในภารกิจดังต่อไปนี้.-

• ที่บังคับการเป็นพื้นที่สำหรับบังคับบัญชา และควบคุมส่วนดำเนินกลยุทธ์ภาคพื้นดิน

• การลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอากาศ และการพิสูจน์ทราบเป้าหมาย, รวมทั้งการลาดตระเวนด้วยสายตา และการใช้เครื่องมือถ่ายรูป, อินฟราเรด และเครื่องมือตรวจจับด้วยเรดาร์ สามารถให้การสนับสนุนแก่หน่วยระดับกรมได้ โดยหน่วยบัญชาการระดับสูงขึ้นไปเป็นผู้ร้องขอ

• การปรับการยิงของปืนใหญ่ (การตรวจการณ์หน้าทางอากาศ)

• การส่องสว่างสนามรบ

• การปฏิบีติการยุทธ์เคลื่อนที่โจมตีทางอากาศ รวมทั้งการปฏิบัติการโจมตีและการเคลื่อนย้ายกองหนุน

• การเสริมการปฏิบัติการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจของกองทัพอากาศ

• การโปรยหว่านสารเคมีและควัน

• การถ่ายทอดวิทยุ

• การทิ้งข่าวและตกข่าว

• การส่งกำลังพลทางอากาศ

• การคุ้มกันขบวนยานยนต์

• การสำรวจและการแผนที่

• การส่งกลับสายแพทย์ฉุกเฉิน

• การติดต่อ

• การขนส่งผู้บังคับบัญชาและฝ่ายอำนวยการ

• การเฝ้าติดตามสถานการณ์ เคมีและนิวเคลียร์

• การควบคุมรูปขบวน

• การทำฉากกำบัง

• การส่งบุคคลสำคัญ, สิ่งอุปกรณ์ และวัสดุต่าง ๆ ไปยังพื้นที่ที่อยู่โดดเดี่ยว

• การลวง

• การวางทุ่นระเบิด

• การสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (การเฝ้าฟัง, การส่งคลื่นรบกวน, การหาทิศทาง,การสกัดกั้น)



๗ - ๑๔ การจัด

หน่วยบินทหารบกมักจะถูกจัดให้ไปอยู่ในการควบคุมทางยุทธการของผู้บังคับการกรม ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ หน่วยบินจะต้องนำสิ่งอุปกรณ์สำหรับสนับสนุนทางการส่งกำลังบำรุงติดไปด้วย นอกเหนือไปจากหน่วยเฮลิคอปเตอร์โจมตีแล้ว ผู้บังคับหน่วยสามารถร้องขอหน่วยบินสนับสนุนการรบและหน่วยบินลาดตระเวนเฝ้าตรวจมาขึ้นการควบคุมทางยุทธการได้ จำนวนอากาศยานในหน่วยบินนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยทางการเมือง และปัจจัย METT – T

ก. หน่วยบินสนับสนุนการรบ เมื่อมาสนับสนุนให้กับกรม จะดำเนินการเคลื่อนย้ายทางยุทธวิธีทางอากาศให้กับกำลังพล, สิ่งอุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ กองร้อยบินสนับสนุนการรบมีขีดความสามารถในเรื่อง.-

(๑) การปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในสภาพทัศนวิสัยดี และการปฏิบัติการอย่างจำกัดในสภาพทัศนวิสัยเลว

(๒) การดำเนินการเคลื่อนย้ายทางอากาศให้กับส่วนโจมตีของหนึ่งกองร้อยอาวุธเบาทหารราบ

(๓) การเพิ่มเติมขีดความสามารถในการส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศให้กับหน่วยส่งกลับสายแพทย์

ข. หน่วยลาดตระเวนเฝ้าตรวจทางอากาศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและพิสูจน์ทราบเป้าหมายของกรมทหารราบ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการใช้เครื่องมือเฝ้าตรวจและเครื่องมือค้นหาทางอากาศ กองร้อยลาดตระเวนเฝ้าตรวจทางอากาศ สามารถ.-

(๑) ปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่องในพื้นที่บางส่วนของกรม ภารกิจนี้สามารถปฏิบัติได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนในเกือบทุกสภาพอากาศ

(๒) ปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศ เป็นเส้นทางและเป็นพื้นที่

(๓) รวบรวมข้อมูลในการพิสูจน์ทราบเป้าหมายทางอากาศ

(๔) รวบรวมข่าวสารสำหรับการวิเคราะห์การโจมตีทางอากาศ และการโจมตีด้วยการยิงจากปืนใหญ่ต่อเป้าหมายที่เป็นที่บังคับการ

(๕) ปฏิบัติการควบคุมสนามบินปลายทาง

ตอนที่ ๔

หน่วยข่าวกรองทางทหาร

หน่วยข่าวกรองทางทหารในระดับยุทธวิธีถือเป็นความจำเป็น และความสำคัญขั้นพื้นฐาน (กระบวนการในการเตรียมสนามรบด้านการข่าวกรอง มีรายละเอียดอธิบายในบทที่ ๖) ในตอนที่ ๔ นี้จะเน้นในเรื่อง ภารกิจ, การจัดของหน่วยข่าวกรองทางทหาร, ประเภทของข้อมูลข่าวสาร การรักษาวินัยในการผลิต และรวบรวมข้อมูล รวมทั้งวิธีการประสานสอดคล้องการปฏิบัติของส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังอธิบายถึงหลักการในเรื่องการข่าวกรอง และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งข้อพิจารณาในสภาพการณ์พิเศษต่าง ๆ

๗ - ๑๕ ภารกิจ

หน่วยข่าวกรองทางทหารในระดับยุทธวิธีจะรวบรวม, ดำเนินกรรมวิธี และกระจายข่าวสารและข่าวกรองการรบ หน่วยข่าวกรองนี้จะช่วยผลิตข่าวกรองสนับสนุนการปฏิบัติการระวังป้องกัน, การลวง และการสงครามอิเล็กทรอนิกส์

๗ - ๑๖ การจัด

ตามปกติแล้วกรมและกองพันจะมีตอนของฝ่ายอำนวยการที่ทำหน้าที่ด้านข่าวกรอง จากลักษณะธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้การกระจายกำลัง ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ กองทัพน้อยและกองพลอาจแบ่งมอบหน่วยข่าวกรองส่วนย่อย ๆ ให้ไปขึ้นสมทบกับกรม เช่นเดียวกัน กรมอาจต้องแบ่งมอบส่วนปฏิบัติการด้านข่าวกรองไปให้กับกองพัน หน่วยข่าวกรองทางยุทธวิธีจะต้องประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านการข่าวที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ (ไม่ว่าจะเป็นของกองทัพฝ่ายเรา หรือกองทัพของประเทศเจ้าบ้าน) ผู้บังคับการกรมควรจะต้องร้องขอหน่วยปฏิบัติการข่าวกรองและอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยสนับสนุนในการจัดผลิตข่าวกรอง,ข่าวสารสำหรับการรบ, สงครามอิเล็กทรอนิกส์, มาตรการรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการ และการจัดชุดซักถาม ซึ่งจะเป็นไปตามความต้องการ และความจำเป็น

๗ - ๑๗ ประเภทของข้อมูลข่าวสาร

ประเภทของข้อมูลข่าวสารที่สำคัญสำหรับผู้บังคับหน่วยมี ๒ ประเภทคือ ข่าวสารสำหรับการรบ และข่าวกรอง

ก. ข่าวสารสำหรับการรบ มีความอ่อนไวต่อปัจจัยเวลา และสามารถนำไปใช้ได้ในภารกิจทางยุทธวิธี ข่าวสารดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประกอบการแสวงข้อตกลงใจในการยิงและการดำเนินกลยุทธ์ โดยใช้กรรมวิธีค่อนข้างน้อย, มีอายุการใช้งานค่อนข้างน้อย และใช้ได้ไม่ค่อยแพร่หลายทั่วไป (การตีความและการบูรณาการ) ข่าวสารสำหรับการรบ มักจะผลิตขึ้นในหน่วยตั้งแต่ระดับ กองพันขึ้นไป

ข. ข่าวกรอง คือ ข่าวสารที่ต้องผ่านการดำเนินกรรมวิธี, บูรณาการ และเปรียบเทียบ ซึ่งการเปรียบเทียบนี้ จะต้องกระทำก่อนที่จะนำข้อมูลข่าวสารไปใช้หรือขยายผลได้อย่างเต็มที่

๗ - ๑๘ การรักษาวินัยในการรวบรวมข้อมูล

ในการต่อต้านการก่อความไม่สงบนั้น จะต้องใช้วินัยเป็นทวีคูณในการรวบรวมข่าวสาร วินัยในการปฏิบัติที่กล่าวนั้น หมายรวมถึง การใช้ ข่าวกรองบุคคล, ข่าวกรองทางการสื่อสาร, ข่าวกรองทางการภาพ, ข่าวกรองทางคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และข่าวกรองทางเทคนิค ตามแนวนโยบายของการต่อต้านการก่อความไม่สงบนั้น การต่อต้านข่าวกรองบุคคล ถือเป็นการรักษาวินัยที่ดีที่สุดที่จะสามารถขัดขวาง และหน่วงเหนี่ยวกระบวนการและบั่นทอนขีดความสามารถในการรวบรวมข่าวกรองบุคคลของฝ่ายก่อความไม่สงบ

ก. ข่าวกรองบุคคล เป็นประเภทหนึ่งของข่าวกรอง ซึ่งแปรสภาพมาจากข้อมูลข่าวสารที่รวบรวมและจัดหามาจากแหล่งข่าวที่เป็นบุคคล ข่าวกรองบุคคลประกอบด้วยการซักถามเชลยศึก, การขยายผลจากเอกสารที่ยึดมาได้, หน่วยลาดตระเวนระยะไกล, ชุดยิงสนับสนุน, หมวดลาดตระเวน, ผู้ตรวจการณ์หน้าและหน่วยลาดตระเวนทางอากาศ, นายทหารติดต่อในการปราบปรามการก่อความไม่สงบที่จัดไปประสานงานกับฝ่ายพลเรือน และแหล่งที่มาของการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบในระดับต่ำ

ข. ข่าวกรองทางการสื่อสาร การข่าวกรองประเภทนี้จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อฝ่ายข้าศึกศัตรูมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่ถูกดักฟัง และสกัดกั้นรบกวนการส่งข่าวได้เท่านั้น

ค. ข่าวกรองทางการภาพ ข่าวกรองประเภทนี้ได้มาจากการใช้เรดาร์, อินฟราเรด และเครื่องมือตรวจจับและถ่ายภาพ ข้อมูลจะถูกวิเคราะห์ผ่านทางกรรมวิธีการแปลความหมายและตีความภาพถ่าย เพื่อที่จะสามารถใช้เป็นข้อมูลในการพิสูจน์ทราบและกำหนดพิกัดที่ตั้งของฐานที่มั่นของข้าศึก, เป้าหมายของข้าศึกและกิจกรรมการปฏิบัติของข้าศึก

ง. ข่าวกรองทางคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นประเภทหนึ่งของข่าวกรองที่แปรสภาพมาจากคลื่นสัญญาณและสัญญาณอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากการส่งพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าของระบบอุปกรณ์ของข้าศึก

จ. ข่าวกรองทางเทคนิค เป็นประเภทหนึ่งของข่าวกรองที่ได้รับมาจากการศึกษาอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายข้าศึกที่เราสามารถยึดมาได้

หมายเหตุ : การสนธิ หรือบูรณาการ ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งที่มาต่าง ๆ นี้เข้าด้วยกัน ประกอบกับข่าวกรองอื่นๆ จะเป็นการจัดสร้างองค์ประกอบที่ทำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถมองเห็นภาพ สนามรบได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และจะทำให้เกิดความอ่อนตัวในการปฏิบัติ และมีเวลาพอเพียงที่ จะดำเนินการตอบโต้เหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้

ฉ. การต่อต้านข่าวกรอง ประกอบด้วย การปฏิบัติการลวง, การรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการ และการรักษาความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร

(๑) การปฏิบัติการลวง เป็นการปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อทำให้ข้าศึกเข้าใจผิด โดยได้รับข่าวสารที่ผิดไปจากความเป็นจริง และทำให้ข้าศึกประเมินสถานการณ์ผิดพลาด

(๒) การรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติการ ทำให้ข้าศึกไม่สามารถล่วงรู้ หรือรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ตามที่ต้องการที่จะนำไปประมาณสถานการณ์ ทำให้ฝ่ายเราสามารถปฏิบัติการได้อย่างจู่โจม

(๓) การรักษาความปลอดภัยทางการสื่อสาร ทำให้ข้าศึกไม่สามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้จากข่ายการติดต่อสื่อสารของฝ่ายเรา

๗ - ๑๙ การประสานสอดคล้องของข่าวกรองและข้อมูลข่าวสาร

ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ ข่าวกรองบุคคล เป็นส่วนหลักในการได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมให้กับหน่วยกำลังรบ สำหรับการต่อต้านข่าวกรองนั้น ใช้เพื่อขัดขวางรบกวนและหน่วงเหนี่ยวกระบวนการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของฝ่ายก่อความไม่สงบ ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่เหนือกว่า ประกอบกับความพยายามในการรวบรวมข่าวสาร และการต่อต้านข่าวกรองอย่างประสานสอดคล้องจะทำให้ผู้บังคับบัญชาสามารถลวงฝ่ายข้าศึกได้

๗ - ๒๐ การข่าวกรอง และสงครามอิเล็กทรอนิกส์

การข่าวกรอง และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการรบอากาศ-พื้นดิน จะถูกนำมาประยุกต์ใช้ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งบอกเหตุทางด้านการข่าวกรองที่จะบ่งบอกการปฏิบัติของฝ่ายข้าศึกนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างออกไป การพัฒนาและการประยุกต์ใช้สิ่งบอกเหตุอย่างถูกต้องเหมาะสมจะเป็นขั้นตอนสำคัญในกรรมวิธีการรวบรวมข่าวสาร

ก. การที่กำลังทหารจากกองทัพบกของเราจะเข้าร่วมปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำนั้น อาจเป็นไปได้อย่างกะทันหัน หรือเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า ฝ่ายอำนวยการและฝ่ายกิจการพิเศษในสายงานการข่าวกรองและสงครามอิเล็กทรอนิกส์ หรือนายทหารฝ่ายการรักษาความปลอดภัยจะช่วยเหลือในด้านการจัดทำและพัฒนาแผนเผชิญเหตุในส่วนของผนวกข่าวกรอง หน่วยข่าวกรองทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ จะสนับสนุนในด้านการให้คำแนะนำ, งบประมาณและการช่วยเหลือด้านวัสดุอุปกรณ์, การจัดหลักสูตรสำหรับการศึกษา และการจัดทำพัฒนาการด้านเอกสารรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ความพยายามต่าง ๆ เหล่านี้จะมุ่งเน้นไปยังระดับชาติของประเทศเจ้าบ้าน อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการจัดชุดครูฝึกเคลื่อนที่ และชุดที่ปรึกษาให้คำแนะนำส่งไปปฏิบัติภารกิจในระดับล่างลงไป ชุดที่ปรึกษาให้คำแนะนำบางชุดอาจให้ความช่วยเหลือกับหน่วยกำลังกึ่งทหาร หรือหน่วยที่มิใช่กำลังแบบทหาร ในการจัดทำและพัฒนาแหล่งข่าวกรองบุคคล และการขยายผลจากข้อมูลที่จัดหามาได้

ข. กำลังทหารของสหรัฐ ฯ ที่เข้าร่วมปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำสามารถเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำมาเป็น บทบาทในฐานะของผู้ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว ระบบงานข่าวกรองที่ได้จัดเตรียมไว้จะถูกพัฒนาต่อไป บทบาทอื่น ๆ เพิ่มเติมในงานด้านการข่าวกรองทางทหาร ได้แก่.-

• การให้ความช่วยเหลือด้านการทหารในระดับจังหวัดหรือต่ำกว่า

• การปฏิบัติการกิจการพลเรือน

• การปฏิบัติการจิตวิทยา

• การควบคุมประชาชนและทรัพยากร

• การปฏิบัติการทางยุทธวิธี

• การปฏิบัติการผสมด้านการข่าวกรองทางทหารกับประเทศเจ้าบ้านในรูปแบบของการจัดชุดซักถาม, การขยายผลในด้านวัตถุและเอกสาร, รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์การตีความภาพถ่าย





๗ - ๒๑ การร่วมมือปฏิบัติการด้านการข่าวกรอง

ในการปฏิบัติการยุทธ์ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ เมื่อเป็นการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ และการต่อสู้ป้องกันการก่อการร้าย (และอาจหมายรวมถึงการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ) ความสำเร็จในการปฏิบัติงานด้านการข่าวกรอง จำเป็นต้องอาศัยการประสานงานอย่างใกล้ชิด และการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐ ฯ และหน่วยงานข่าวกรองของประเทศเจ้าบ้าน การสนับสนุนจากหน่วยงานข่าวกรองในระดับประเทศของสหรัฐ ฯ จะเป็นไปในรูปแบบของการจัดชุดผู้ชำนาญการมาประจำที่ศูนย์กลางของประเทศเจ้าบ้าน ศูนย์กลางดังกล่าวนี้จะเป็นแหล่งผลิตทรัพยากรด้านภาพการข่าวกรองของทั้งประเทศ ชื่อเรียกของศูนย์กลางนี้จะเป็นไปตามชื่อประเทศ สำหรับคำอธิบายในเรื่องนี้คงจะใช้การอธิบายในลักษณะเดียวกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในชาติ (กอรมน.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อ อำนวยการและประสานงานในกิจการทั้งปวงที่หน่วยงานด้านการข่าวกรองของประเทศนั้น ๆ ได้ปฏิบัติ ซึ่งหมายรวมถึง การปฏิบัติงานของหน่วยข่าวกรองทางทหาร, หน่วยข่าวกรองของกำลังกึ่งทหาร และหน่วยข่าวกรองของตำรวจทั่วทั้ง ประเทศ

ก. ศูนย์กลางการปฏิบัติในลักษณะเดียวกันนี้ จะเกิดขึ้นในระดับล่างลงไป โดยมีชื่อเรียกตามชื่อของภาคหรือจังหวัดนั้น ๆ สำหรับเปรียบเทียบ ก็อาจจะเปรียบได้กับ สำนักข่าวกรองระดับภาค หรือ กอรมน.ภาค ซึ่งจะถูกจัดตั้งขึ้นในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง และเป็นหน่วยงานในลักษณะเดียวกับ กอรมน. ทั้ง กอรมน. และ กอรมน.ภาค จะอยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของประเทศเจ้าบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านการข่าวกรองของสหรัฐ ฯ ที่ให้การสนับสนุนจะปฏิบัติงานโดยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระดับรองของ กอรมน.นั้น ๆ กอรมน.ภาค จะมีภารกิจดังต่อไปนี้.-

• ประสานงานและรวบรวมการปฏิบัติของหน่วยกำลังทหารและส่วนรักษาความปลอดภัยในภาคของตน

• ดำเนินการวิเคราะห์แหล่งข่าวทั้งปวงที่มีอยู่

• จัดทำแหล่งกลุ่มเป้าหมายทั้งปวงให้กับหน่วยกำลังรบฝ่ายเดียวกัน

• แจ้งเตือนหน่วยปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน และหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยา ถึงพื้นที่ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง

ข. การปฏิบัติงานด้านการข่าวกรองของ ทบ.สหรัฐ ฯ จะสนับสนุนภารกิจที่ได้รับมอบโดย

• ดำเนินการต่อเป้าหมายด้านการข่าวกรอง

• บูรณาการแผนงานการข่าวกรองในท้องถิ่นเข้ากับแผนงานการข่าวกรองระดับชาติ ของประเทศเจ้าบ้าน

• ประเมินค่าแหล่งข่าว

• จัดและทำการฝึกหน่วยงานด้านการข่าว

• จัดทำแผนงานการข่าวกรองขึ้นใหม่

• จัดลำดับความเร่งด่วนและแบ่งมอบทรัพยากร

• ปฏิบัติตามแผนงานการจัดการติดต่อ

ค. หากกำลังทหารของสหรัฐ ฯ ได้รับมอบหมายให้เข้าปฏิบัติภารกิจในประเทศเจ้าบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวกรองของหน่วยกำลังรบจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานผสมด้านการข่าวกรองที่มีอยู่ในพื้นที่

ง. ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ, เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวกรองทางทหารของสหรัฐ ฯ จะสนับสนุนประเทศเจ้าบ้านทั้งในด้านการให้คำแนะนำ และให้การช่วยเหลือเมื่อมีความต้องการ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการทางทหาร เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารจากส่วนต่าง ๆ อาจจำเป็นต้องประสานความต้องการในทางสร้างสรรค์ จะต้องมีการจัดตั้งสายการบังคับบัญชาและสายงานด้านการเมืองของประเทศเจ้าบ้านให้ชัดเจน และใช้เป็นพื้นฐานในการจัดตั้งส่วนประสานด้านการสนับสนุน

จ. สภาพภูมิประเทศและลมฟ้าอากาศในพื้นที่ปฏิบัติการของสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำที่น่าจะพบ จะมีความสำคัญต่อทั้งปัจจัยด้านบุคลากร และการปรนนิบัติบำรุงยุทโธปกรณ์ เงื่อนไขและสภาพการณ์ต่าง ๆ ที่จะอธิบายในตอนต่อไปนี้ จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำ