วันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การสนับสนุนกลุ่มกบฏ และการต่อต้านกลุ่มกบฏ

การสนับสนุนกลุ่มกบฏ และการต่อต้านกลุ่มกบฏ


“ข้าพเจ้าได้ปฏิญาณอย่างแน่วแน่ตลอดกาลในอันที่จะต่อต้านแนวความคิดเผด็จการและจิตวิญญาณของทรราชย์ทุกรูปแบบ”

โทมัส เจฟเฟอร์สัน

กำลังทหารของเราอาจจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายกบฏ ปฏิบัติการต่อต้านรัฐบาล ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อได้รับการตกลงใจสั่งการแล้ว กรมหรือกองพันเฉพาะกิจ (ทั้งหน่วยหนักและหน่วยเบา) เสริมด้วยหน่วยรบพิเศษ จะปฏิบัติในลักษณะกำลัง “เชิงตัดสิน” ของกอง กำลังเฉพาะกิจร่วม ไม่ว่าจะล้มล้างหรือช่วยเหลือรัฐบาล เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ, ผบ.หน่วยจะต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของกลุ่มกบฏ เช่นเดียวกับที่เข้าใจบทบาทเฉพาะของตนในการต่อต้านกลุ่มกบฏ บทที่ ๒ นี้ จะอธิบายถึงการปฏิบัติของกลุ่มกบฏ; บทบาทของ ผบ.หน่วยในการดำเนินกลยุทธ์และยุทธวิธีในการต่อต้านกลุ่มกบฏ ทั้งการรุกและรับ; ยุทธวิธี, เทคนิค และกระบวนการในการต่อต้านกลุ่มกบฏ ในขั้นตอนทั้ง ๓ ขั้นของการก่อการล้มล้างรัฐบาล ตามปกติแล้วกำลังทหารของเราจะไม่ได้รับคำสั่งอนุมัติให้เริ่มปฏิบัติการ จนกว่าจะถึงขั้นตอนที่ ๓ ของการล้มล้างรัฐบาล ( ดู

หัวข้อ ๒ – ๖ )

ตอนที่ ๑

ลักษณะธรรมชาติของการกบฏ

เราจำเป็นต้องศึกษา และทำความเข้าใจกลุ่มกบฏก่อนที่จะทำลายกำลังเหล่านั้น ในตอนที่ ๑ ของบทนี้ จะอธิบายถึงลักษณะ, ยุทธวิธี และสภาพแวดล้อมของการก่อการกบฏ กลุ่มกบฏเป็นกองกำลังที่ก่อความเคลื่อนไหวและดำเนินการโดยมุ่งหมายที่จะล้มล้างการปกครองของรัฐบาล โดยใช้การบ่อนทำลายและสนับสนุนการปฏิบัติการด้านการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคมจิตวิทยา, การทหาร และการปฏิบัติการลับ กำลังทหารและกำลังกึ่งทหารของกลุ่มกบฏ จะใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจร ทั้งนี้ ด้วยการปฏิบัติการเชิงรุกในเวลาและสถานที่ที่หน่วยกองโจรได้เลือกไว้ โอกาสจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อกองโจรสามารถครองความได้เปรียบเฉพาะตำบล อาศัยการปฏิบัติการที่รุกรบมากกว่าที่จะใช้การตั้งรับเพื่อป้องกัน ลักษณะการปฏิบัติการของกองโจรมักจะเน้นการเข้าโจมตีอย่างรุนแรง รวดเร็ว,การแสดงลวง,การโฆษณาชวนเชื่อ,การดำเนินการทางด้านการเมือง และการทูต

๒ - ๑ เป้าหมาย

เป้าหมายแท้จริงของการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏ ก็คือการล้มล้างการปกครองและการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นแทนที่ ซึ่งกลุ่มกบฏจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ด้วยการ

ก.สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากโครงการด้านสิทธิมนุษยชน, การโฆษณาชวนเชื่อ, การข่มขู่ และการก่อการร้าย หากไม่สามารถหาทางรับการสนับสนุนโดยเปิดเผยได้ ก็จะพยายามหาทางการสนับสนุนในทางลับ ซึ่งได้แก่ การสนับสนุนจากบางส่วนของกลุ่มประชาชนในพื้นที่

ข. ใช้สงครามกองโจร

(๑) เพื่อเพิ่มสถานการณ์แห่งความไม่มั่นคง ด้วยการเลือกใช้การก่อการร้ายในเวลาและโอกาสที่กำหนด กองโจรจะเข้าโจมตีหรือทำลายสถานที่อันเป็นเงื่อนไขทางเศรษฐกิจหรือทางการเมือง ซึ่งเป็นของรัฐบาล การปฏิบัติการตอบโต้ที่รุนแรงหรือเกินกว่าเหตุของรัฐบาล หรือหน่วยงานอื่น ๆ จะทำให้ประชาชนเริ่มเอาใจออกห่างรัฐบาล และเริ่มสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล

(๒) เพื่อลดสถานะแห่งการควบคุมของรัฐบาล โดยกองโจรจะเข้าโจมตีต่อกำลังส่วนย่อยของรัฐบาล หรือสถานที่ที่รัฐบาลไม่สามารถคุ้มครองด้วยกำลังได้ ทั้งนี้ เพื่อเน้นให้เห็นถึงความไม่มีเสถียรภาพหรือความไม่มั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ภายใต้การปกครองของรัฐบาลอีกนัยหนึ่งก็คือ การสร้างมุมมองให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมพวกกบฏได้

(๓) เพื่อสร้างผลแห่งชัยชนะทางด้านจิตวิทยา เนื่องจากจะให้ประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวของพวกกลุ่มกบฏ แม้ว่าชัยชนะดังกล่าวอาจมิใช่การทำลายสถานะทางกายภาพของรัฐบาลหรือกองทัพของรัฐบาลโดยตรง แต่สิ่งที่กองโจรต้องการคือ ความได้เปรียบทางด้านจิตวิทยา

(๔) เพื่อสะกัดกั้นการใช้ทรัพยากรในการบริหารประเทศของรัฐบาล ทั้งนี้ พวกกองโจรจะใช้ความพยายามหาช่องทางในการขัดขวางการดำเนินการตามโครงการพัฒนาประเทศ

(๕)เพื่อบั่นทอนประสิทธิภาพของกำลังทหารฝ่ายรัฐบาล โดยการริดรอน ทำลายกำลังส่วนย่อย ๆ ของกองทัพฝ่ายรัฐบาล เมื่อกองโจรประสบผลสำเร็จมากขึ้น หลายครั้งขึ้น กำลังทหารของรัฐบาลก็จะอ่อนแอลงจนถึงขั้นไม่พร้อมสำหรับสงครามขนาดใหญ่

๒ - ๒ สภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมที่กลุ่มกบฏจะใช้ปฏิบัติการนั้น จะต้องได้รับการตรวจสอบ และวิเคราะห์อย่างละเอียดมากกว่ามุมมองทางภูมิศาสตร์ทั่วไป สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศจัดว่าเป็นปัจจัยสำคัญ แต่สภาพแวดล้อมทางการเมือง ,เศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ยิ่งยวด

ก. ภูมิประเทศ กองโจรมักชอบใช้ที่อยู่อาศัย คือบ้านของตนเอง นอกเสียจากจะไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ กองโจรจึงจะไปอยู่ในค่ายที่จัดตั้งขึ้น ค่ายดังกล่าวมักจะอยู่ในบริเวณที่สามารถติดต่อไปมาหาสู่กับประชาชนในพื้นที่ได้ง่าย, สามารถติดต่อหรือเดินทางไปยังประเทศพันธมิตร หรือชายแดนรัฐกันชนได้, มีเส้นทางหลบหนีอย่างดี และสามารถเฝ้าตรวจการเข้ามาของกำลังทหารฝ่ายปราบปรามได้เป็นอย่างดี หากกำลังทหารของฝ่ายปราบปรามสามารถขับไล่กองโจรออกจากฐานที่มั่นใหญ่ได้กองโจรก็จะหลบหนีออกไปตั้งค่ายพักในพื้นที่ของประเทศตรงข้ามที่ไม่เป็นมิตรกับรัฐบาลและทหารฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถส่งกำลังผ่านเข้าไปได้ง่าย ๆ

ข. ภูมิอากาศ กลุ่มกบฏมีความได้เปรียบ เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับสภาพพื้นที่และภูมิอากาศ แต่หากฝ่ายรัฐบาลมีความคุ้นเคยกับสภาพภูมิอากาศเช่นเดียวกัน ความได้เปรียบนั้นก็จะลดน้อยลง

ค. ปัจจัยทางด้านการเมือง จำนวนประชากรที่มีอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการ จะมีผลโดยตรงต่อการปฏิบัติการของกลุ่มกบฏ ยิ่งฝ่ายรัฐบาลสามารถควบคุมประชาชนได้มากเท่าใด กลุ่มกบฏก็จะมีโอกาสแห่งความสำเร็จน้อยลงเท่านั้น กลุ่มกบฏจะใช้ความพยายามจัดตั้งรัฐบาลเงา, เพื่อรบกวนขัดขวางระบบการทำงานของรัฐบาล และทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกของฝ่ายรัฐบาล ตลอดจนบุคลากรของรัฐบาล ระดับความสามารถในการควบคุมของรัฐบาลจะลดลง เมื่อรัฐบาลเงาสามารถเข้าครอบงำระบบการปกครองควบคุมของฝ่ายรัฐบาลได้

ง. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ มาตรฐานความเป็นอยู่ที่ต่ำ และความจำเป็นในการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ จะเป็นสิ่งที่เอื้ออำนวยต่อการต่อต้านนโยบายของรัฐบาล และการปฏิบัติการของกลุ่มกบฏ กลุ่มกบฏจะหาช่องทางในการขยายผลแห่งสถานการณ์ โดยการใช้การปฏิบัติการทางจิตวิทยา กลุ่มกบฏจะใช้ประโยชน์ด้านการส่งกำลังบำรุงจากแหล่งในพื้นที่ ซึ่งตามปกติแล้วกลุ่มกบฏจะไม่ทำอันตราย แต่กำลังของฝ่ายกบฏอาจจะทำลายแหล่งส่งกำลังบำรุงในท้องถิ่น เพื่อเป็นการสั่งสอนหรือเตือนให้เกิดความเชื่อฟังเท่านั้น

จ. ปัจจัยทางสังคมจิตวิทยา การเกิดความแตกแยกในสังคมยิ่งมีมากเท่าใด ความไม่พอใจต่อการปกครองของรัฐบาลยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้มากเท่านั้น กลุ่มกบฏจึงพยายามที่จะสร้างความแตกแยกร้าวฉานในระหว่างกลุ่มสังคมให้มีมากขึ้นทุกขณะ ความแตกแยกของกลุ่มต่าง ๆ อาจมีพื้นฐานจาก เชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ศาสนา หรือความเป็นอยู่ในสังคม ความแตกต่างทางด้านภาษา หรือขนบธรรมเนียมประเพณี ก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิทธิพลจากความเชื่อทางศาสนาเป็นสาเหตุหลักที่กลุ่มกบฏสามารถใช้เป็นเงื่อนไขที่ส่งผลต่อการปฏิบัติการได้มากที่สุด

ผลกระทบจากปัจจัยแต่ละด้านที่มีต่อกลุ่มกบฏและขีดความสามารถในการปฏิบัติการนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ การวิเคราะห์ผลที่อาจเกิดจากปัจจัยในแต่ละด้านโดย ผบ.หน่วยก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผบ.หน่วยจะต้องพิจารณาถึงจุดอ่อนและจุดแข็งที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มกบฏในแต่ละสถานการณ์ ในการวางแผนปฏิบัติการปราบปรามการกบฏนั้น ผบ.หน่วยจะใช้การขยายผลต่อจุดอ่อนของฝ่ายกบฏ และป้องกันมิให้ฝ่ายกบฏได้ใช้โอกาสขยายผลจากจุดอ่อนของฝ่ายรัฐบาล

๒ - ๓ คุณลักษณะ

หากเข้าใจลักษณะตามธรรมชาติของกลุ่มกบฏแล้ว ผบ.หน่วยก็จะสามารถพิจารณาความเข้มแข็งของกลุ่มกบฏที่จะต้องพยายามริดรอน หรือหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญ และจุดอ่อนของกลุ่ม

กบฏที่เราจะใช้ปฏิบัติการเพื่อขยายผล คุณลักษณะทั่วไปของกลุ่มกบฏที่เราจะนำมากล่าวถึงในหัวข้อนี้ จึงมุ่งเจาะจงถึงลักษณะการคุกคามเฉพาะ กลุ่มกบฏคนละกลุ่มย่อมมีความแตกต่างกัน; ดังนั้น ผบ.

หน่วยที่วางแผนปฏิบัติการปราบปรามฝ่ายกบฏจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์เฉพาะ เพื่อใช้คุณลักษณะ ดังกล่าวให้ถูกโอกาสและจังหวะ

ก. ความเข้มแข็งของฝ่ายกบฏ กลุ่มกบฏส่วนมากจะมีจุดแข็งอยู่มากมายที่จะต้อง ริดรอน

(๑) การข่าวกรอง ระบบเครือข่ายการข่าวจากโครงสร้างของกลุ่มกบฏจะมีความต่อเนื่อง และได้รับข้อมูลข่าวสารของฝ่ายรัฐบาลได้ทันเวลา ทันเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายกำลัง, ขนาดของหน่วย, จุดอ่อน และขีดความสามารถ ความจำเป็นของการรักษาความลับ และการปกปิดเป็นปัจจัยสำคัญแห่งการอยู่รอดของกลุ่มกบฏ จึงจำเป็นต้องจัดหน่วยในลักษณะที่ฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถค้นหา หรือส่งกำลังเข้าทำลายได้โดยง่าย ฝ่ายรัฐบาลจะต้องใช้ระบบข่าวกรองเชิงรุก การรวบรวมและวิเคราะห์ตีความเพื่อสร้างข้อมูลพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์โครงสร้างและเทคนิคอื่น ๆ ในการค้นหา ย่อมจะลดความได้เปรียบและจุดแข็งของกลุ่มกบฏลงได้ นอกจากนี้แล้ว กำลังฝ่ายปราบปรามยังสามารถต่อต้านระบบข่าวกรองของฝ่ายกบฏได้ด้วยการใช้ปฏิบัติการข่าวลวง, มาตรการรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติ และการรักษาความปลอดภัยทางการสื่อสาร

(๒) ลักษณะความเป็นคนพื้นเมืองหรือชนในท้องถิ่น กลุ่มกบฏสามารถทำตัวให้กลมกลืนกับประชาชนในพื้นที่ได้ง่าย เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว คุณลักษณะข้อนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความลับของการปฏิบัติการ กำลังฝ่ายรัฐบาลจะต้องพยายามพิสูจน์ทราบ และแยกแยะฝ่ายกบฏออกจากพลเมืองในท้องถิ่น ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้จากการควบคุมการปฏิบัติต่อพลเมืองและทรัพยากร โดยมิให้พลเมืองเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติการ หรือได้รับการปฏิบัติอย่างรุนแรงจากฝ่ายรัฐบาล

(๓) ความรู้ ฝ่ายกบฏจะมีความรอบรู้และคุ้นเคยกับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนลักษณะของพื้นที่ปฏิบัติการเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบในการใช้ขีดความสามารถนี้ปฏิบัติการทางจิตวิทยาอย่างมีประสิทธิผล หรือใช้การบังคับข่มขู่ให้ปฏิบัติตามที่ต้องการ กำลังทหารฝ่ายรัฐบาลจะต้องเอาชนะจุดแข็งนี้ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนในพื้นที่ การปฏิบัติการโดยใช้ฐานที่ตั้งถาวรของฝ่ายรัฐบาลด้วยการใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิผลและเลือกใช้กำลังทหารที่มีพื้นเพหรือภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เดียวกับประชาชนเหล่านั้น

(๔) แรงจูงใจและระเบียบวินัย ผู้นำของฝ่ายกบฏเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม และมีแรงจูงใจ พวกผู้นำเหล่านั้นจะเพิ่มแรงโน้มน้าวจูงใจให้กับกำลังกองโจรด้วยการฝึกให้มีวินัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว พวกกบฏมักจะยอมอุทิศตนให้กับอุดมการณ์

(๕) ความรับผิดชอบที่มีขอบเขตจำกัด พวกกบฏไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบตามนโยบายของรัฐบาลที่มีต่อสังคม ดังนั้น จึงมีเสรีที่จะปฏิบัติการใด ๆ ก็ได้ที่สนับสนุนให้เป็นไปตาม

เป้าหมายของกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจต้องทำหน้าที่ในด้านการเมืองให้กับรัฐบาลเงาของพวกกบฏ (เช่น การเรียกเก็บภาษี)

(๖) ยุทธวิธี พวกกบฏสามารถเลือกใช้ยุทธวิธีได้หลากหลาย ตั้งแต่การก่อการร้าย, การก่อวินาศกรรม ไปจนถึงสงครามตามแบบ ซึ่งทำให้กองโจรสามารถเพิ่มระดับหรือลดระดับความรุนแรงในการต่อต้านรัฐบาลได้ตามประสงค์ เวลามิใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับพวกกองโจร; พวกกองโจรจะใช้เวลามากตามที่ต้องการ เพื่อทำการลาดตระเวนอย่างละเอียดก่อนเริ่มลงมือปฏิบัติการ

(๗) เงื่อนไขทางกายภาพ ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของพวกกองโจรก็คือ การมีขีดความสามารถและความอดทนต่อความยากลำบาก, สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขาต้องเอาตัวรอดภายใต้สภาพขาดแคลน ทำให้พวกกองโจรต้องปรับตัวและมีความสามารถในการคิดค้นดัดแปลง

ข. จุดอ่อนของพวกกบฏ มีจุดอ่อนอยู่บางประการที่กองกำลังฝ่ายปราบปรามอาจใช้ เป็นจุดขยายผลได้

(๑) การขาดแคลนทรัพยากรและมีกำลังพลค่อนข้างจำกัด ความยากลำบากในการชักจูงประชาชนให้เข้าร่วมขบวนการ และการส่งกำลังบำรุงที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้การปฏิบัติการมีขีดจำกัด กองกำลังฝ่ายปราบปรามควรใช้จุดอ่อนนี้ในการขยายผล โดยขัดขวางเส้นทางการส่งกำลังบำรุง และสิ่งอำนวยความสะดวก, บีบบังคับให้เกิดสภาวะความขาดแคลนยากลำบากและใช้การปฏิบัติการริดรอนกำลังพลของฝ่ายกบฏ

(๒) ปัจจัยเฉพาะบุคคล พวกกลุ่มกบฏมักจะต้องใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อภยันตราย และโดดเดี่ยว ความกดดันนี้จะถูกเพิ่มมากขึ้นจากการขยายผลของกองกำลังฝ่ายปราบปราม นอกจากนี้ยังเกิดความกดดันจากการรู้สึกด้อยกว่าในด้านขนาดของกำลัง เมื่อเปรียบเทียบกับฝ่ายปราบปรามของรัฐบาล, ความหวาดกลัวที่จะถูกพิจารณา พิพากษาให้เป็นอาชญากรเมื่อถูกจับได้, ความหวาดกลัวอันตรายและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองและของฝ่ายรัฐบาลเพื่อตัดรอนกำลังกองโจร ในบางสังคมของบางประเทศนั้น การปฏิบัติอย่างให้เกียรติ, การยอมขอโทษ, การคุ้มครองป้องกัน, การให้อาหาร, ที่พักอาศัย และการให้กลับมามีโอกาสร่วมทำงานกับฝ่ายรัฐบาล อาจเป็นการทำลายความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจและอุดมการณ์ของกลุ่มกบฏได้มากกว่าการปราบปราม และลงโทษอย่างเฉียบขาด

(๓) ปัจจัยในด้านยุทธการ จุดอ่อนในด้านยุทธการ หมายรวมถึงการระวังป้องกัน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากแหล่งต่าง ๆ และการสนองตอบอย่างเชื่องช้า การที่กลุ่มกบฏ ต้องอาศัยพึ่งพาความศรัทธาเชื่อถือจากประชาชนนั้น ถือว่าเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งเช่นกัน หากประชาชนเริ่มเสื่อมศรัทธา หรือไม่ให้การสนับสนุนแล้ว กลุ่มกบฏก็ไม่สามารถปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดอ่อนในด้านยุทธการอีกประการหนึ่งก็คือ การขาดแคลนเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลาเตรียมการเพื่อปฏิบัติการค่อนข้างมาก นอกจากนี้แล้ว ยังอาจใช้สภาพความแตกต่างในความเชื่อทางศาสนา, การเมือง และเชื้อชาติที่แตกต่างกันภายในกลุ่มกบฏ เป็นช่องทางสำหรับขยายผล จุดอ่อนได้อีกด้วย

๒ - ๔ ความศรัทธาเชื่อถือและการสนับสนุนด้านส่งกำลังบำรุง

การสนับสนุนเป็นหัวใจสำหรับกลุ่มกบฏ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น ๒ ทาง คือความศรัทธาเชื่อถือ และการส่งกำลังบำรุง

ก. ความศรัทธาเชื่อถือ ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่า กลุ่มกบฏจะปฏิบัติการได้ภายใต้การสนับสนุนทั้งทางตรง และทางอ้อมจากประชาชนเท่านั้น ลำพังแต่เพียงความศรัทธาเชื่อถืออย่างเดียว ไม่อาจทำให้กลุ่มกบฏสามารถปฏิบัติการได้ผลสำเร็จ การปฏิบัติการที่ไม่มีประสิทธิผล, การตัดสินใจที่ไม่ชาญฉลาดและลักษณะผู้นำที่ไม่ดี ย่อมลดโอกาสแห่งความสำเร็จลงได้อีกมาก

(๑) ศรัทธาเชื่อถือในบางลักษณะ จำเป็นต้องมีอยู่เพื่อให้กลุ่มกบฏได้ริเริ่มปฏิบัติการ หากปราศจากสิ่งดังกล่าวแล้ว ย่อมไม่สามารถปฏิบัติการได้ด้วยความหวังที่จะประสบความสำเร็จ ดังนั้น ข้อพิจารณาสำคัญประการหนึ่งสำหรับกองกำลังฝ่ายปราบปรามก็คือการช่วงชิงหรือให้ได้มาซึ่งศรัทธาจากประชาชนในพื้นที่ที่มีการให้การสนับสนุนทางตรงแก่กลุ่มกบฏ จะถูกพิจารณาเป็นพื้นที่ สำหรับการปฏิบัติการทางจิตวิทยาของฝ่ายปราบปราม การควบคุมทรัพยากรและศรัทธาของประชาชน เป็นปัจจัยหลักที่จะต้องช่วงชิงมาจากกลุ่มกบฏ

(๒) ในพื้นที่ที่มีการให้การสนับสนุนแต่เพียงทางอ้อมให้กลุ่มกบฏนั้น ฝ่ายรัฐบาลก็จะต้องใช้การปฏิบัติการทางจิตวิทยา และด้านกิจการพลเรือน เช่นเดียวกับการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนหันมาสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล ส่วนในพื้นที่ที่รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และประชาชนให้การสนับสนุนรัฐบาลแล้วนั้น ก็ควรจะเน้นการรักษาความมั่นคงภายในและการพัฒนา (การพัฒนาสมดุลย์,การรักษาความปลอดภัย,ความเป็นกลางเสมอภาค และการคมนาคม) เพื่อรักษาไว้ซึ่งศรัทธานั้น

ข. การสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง การสนับสนุนในด้านนี้ นับว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของฝ่ายกบฏ ในระยะแรกของการปฏิบัติการนั้น ฝ่ายกบฏจะพึ่งพาการส่งกำลังบำรุงจากพื้นฐานของตนเอง แต่เมื่อฝ่ายกบฏเริ่มขยายกำลังและปฏิบัติการในขั้นตอนต่อมานั้น จำเป็นต้องใช้ขีดความสามารถในการส่งกำลังบำรุงที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้จะได้มาจากภายในท้องถิ่นที่ปฏิบัติอยู่นั้น แต่ถ้าหากไม่เป็นไปตามเป้าประสงค์ของกลุ่มกบฏแล้ว ก็จะต้องหาแหล่งสนับสนุนจากทางด้านอื่นเพิ่มเติม

(๑) หากกลุ่มกบฏรับการสนับสนุนจากแหล่งภายนอกพื้นที่แล้ว ก็ย่อมเกิดปัญหาขึ้นกับการระวังป้องกันเส้นทางการส่งกำลังบำรุง, เครื่องมือขนส่ง และตำบลเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ การสนับสนุนจากแหล่งภายนอกพื้นที่นั้น มิใช่เป็นเป้าหมายแรกที่ฝ่ายรัฐบาลจะพิจารณาดำเนินการขัดขวาง เนื่องจากจัดว่าเป็นขีดความสามารถเพิ่มเติมจากแหล่งภายในพื้นที่ กองกำลังฝ่ายรัฐบาลจะต้องแสวงหาวิธีการในการขัดขวางและทำลายเครือข่ายการส่งกำลังบำรุงของกลุ่มกบฏทั้งจากภายใน และภายนอกพื้นที่

(๒) เนื่องจากยุทธวิธีของฝ่ายกบฏมีลักษณะโครงสร้างเป็นแบบเดียวกับทหาร ดังนั้น ฝ่ายกบฏจึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ชั่วคราวสำหรับจัดตั้งกองบัญชาการ, แหล่งซ่องสุมกำลัง และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนพื้นที่สำหรับหน่วยปฏิบัติการ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้รวมเรียกว่า ฐานที่มั่น ในฐานที่มั่นดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มกบฏใช้เป็นที่บังคับการ ,พื้นที่ฝึก ,พื้นที่อำนวยการ ติดต่อสื่อ

สาร, สถานที่ให้การรักษาพยาบาล และศูนย์กลางการส่งกำลังบำรุง นอกจากนี้กลุ่มกบฏยังอาจใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน,ฝึกทบทวน และฟื้นฟูกำลังอีกด้วย

(๓) ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏจะไม่เหมือนกับฐานปฏิบัติการของกองกำลังฝ่ายปราบปรามทีเดียว ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏจะถูกจำกัดให้มีขนาดเล็ก และโดยมากแล้วจะมีมากกว่าหนึ่งแห่งในพื้นที่ปฏิบัติการ ลักษณะโดยทั่วไปของฐานที่มั่นจะมีดังนี้.-

(ก) มีการปกปิดซ่อนพราง ฝ่ายกบฏจะพยายามสร้างฐานที่มั่นในพื้นที่ที่มีการปกปิดและซ่อนพราง ป้องกันการถูกค้นพบโดยง่าย

(ข) พื้นที่ที่ยากลำบากต่อการเคลื่อนที่เข้าถึง ฝ่ายกบฏจะเลือกพื้นที่ที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ยานพาหนะและการใช้อาวุธหนักของฝ่ายรัฐบาล ในขณะเดียวกันก็จะหลีกเลี่ยงการสู้รบด้วยวิธีตั้งรับ, แต่จะใช้การปฏิบัติการด้วยวิธีตั้งรับในเฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ในฐานที่มั่น เพื่อช่วยเหลือกำลังที่ใช้การถอนตัวหลบหนีเมื่อถูกเข้าตี กลุ่มกบฏจะป้องกันการถูกค้นพบโดยเลือกพื้นที่ที่ไม่มีผู้คนสัญจรผ่าน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลที่กลุ่มกบฏยังมีความจำเป็นต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติม ฐานที่มั่นจึงมักจะอยู่ห่างจากหมู่บ้านหรือเมืองในระยะทางไม่เกิน ๑ วันของการเดิน กองกำลังฝ่ายปราบปราม จะต้องพยายามค้นหาและรบกวนขัดขวางกลุ่มกบฏในฐานที่มั่น เพื่อทำลายสมดุลย์ และสร้างความได้เปรียบให้กับฝ่ายปราบปราม

(ค) เหมาะสำหรับการใช้กระโจมหรือเพิงที่พักชั่วคราว กลุ่มกบฏจะเลือกพื้นที่ดังกล่าว และยังพิจารณาเพิ่มเติมในเรื่องการส่งเสบียงอาหารและน้ำ, ความลาดชันของพื้นที่, การใช้ภูมิประเทศเป็นเครื่องนำทาง และสภาพแวดล้อมที่ให้การป้องกัน

๒ - ๕ ยุทธวิธีกองโจร

สงครามกองโจรเป็นลักษณะหนึ่งของการก่อกบฏ กองโจรเป็นกำลังรบส่วนหนึ่งของการกบฏ เมื่อกองโจรเริ่มปฏิบัติการ มักจะใช้การปฏิบัติในขอบเขตจำกัดและใช้กำลังไม่มาก หากเป็นการปฏิบัติการในระดับสูงขึ้นไปแล้ว จำเป็นต้องใช้หน่วยขนาดใหญ่ขึ้น, ยุทโธปกรณ์มากขึ้น, การฝึกมากขึ้น และการวางแผนใช้กำลังจะเป็นไปในลักษณะกำลังตามแบบมากขึ้น ยุทธวิธีกองโจรจะมีลักษณะการปฏิบัติที่ไร้รูปแบบ, จู่โจม และรุนแรงภายในระยะเวลาอันสั้น ยุทธวิธีเหล่านี้ในขั้นเริ่มต้นจะแบ่งออกได้เป็น ๒ แบบ คือ : การก่อการร้าย และการก่อกวนขัดขวาง

ก. การก่อการร้าย กองโจรสามารถใช้การก่อการร้าย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ การก่อการร้ายจะประกอบด้วย การวางระเบิด, การลอบสังหารบุคคลสำคัญ, การลักพาตัวบุคคล, การคุกคาม, การทำร้ายร่างกาย, การฆาตกรรม, การทรมาน และการขู่กรรโชก กองโจรทั้งหมดจะไม่ใช้การก่อการร้ายเพียงอย่างเดียว แต่จะเลือกใช้การก่อการร้ายเพื่อการข่มขู่ หรือก่อให้เกิดความหวาดผวา นอกจากนี้การก่อการร้ายยังอาจใช้เพื่อทำลายความเชื่อมั่นในรัฐบาล โดยดึงให้ฝ่ายรัฐบาลใช้การปฏิบัติการที่รุนแรงหรือเกินกว่าเหตุ และทำลายความเป็นมิตรของประชาชน หรือแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีขีดความสามารถในการปกป้องประชาชน

(๑) การบังคับข่มขู่ เพื่อให้บุคคลปฏิบัติในสิ่งที่เกื้อกูลต่อกองโจร หรือความเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏ ตัวอย่างเช่น การบีบบังคับให้ผู้นำท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงนโยบายไปในทางที่เกื้อกูลต่อกองโจร หรือการสนับสนุนในทางอ้อมแก่กำลังของกลุ่มกบฏ

(๒) การก่อให้เกิดความหวาดผวา เป็นการใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อแจ้งเตือนให้บุคคลรู้ว่าจะเกิดอันตรายโดยตรงต่อตนเอง หรือต่อบุคคลอื่นในครอบครัว หรือญาติมิตร ทั้งนี้ เพื่อบีบบังคับให้ประชาชนไม่ร่วมมือ หรือไม่ให้ข้อมูลข่าวสารกับกองกำลังของรัฐบาล หรือไม่เข้าร่วมเป็นฝ่ายรัฐบาล ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกลไกของฝ่ายรัฐบาล ตัวอย่างของวิธีการนี้คือ การสังหารผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้บุคคลอื่น ๆ ถอนตัวออกจากการสมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น

ข.การก่อกวนขัดขวางทำให้กำลังของฝ่ายรัฐบาลตกเป็นฝ่ายรับหรือแก้ไขสถานการณ์ตลอดเวลา หากวิธีการนี้ประสบความสำเร็จ ฝ่ายรัฐบาลจะตกเป็นเบี้ยล่างของฝ่ายกองโจร กองกำลังฝ่ายปราบปรามจะไม่สามารถปฏิบัติการเชิงรุกได้ การก่อกวนยังใช้เพื่อริดรอนกำลังฝ่ายรัฐบาล และทำลายระบบการติดต่อสื่อสาร ข้อได้เปรียบประการหนึ่งของการใช้วิธีการนี้ก็คือ สร้างความเชื่อที่ว่า กองโจรมีขีดความสามารถที่จะปฏิบัติการ ณ ที่ใดก็ได้ และฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถป้องกันหรือต่อสู้เพื่อยุติสงครามขนาดย่อยนี้ ซึ่งเป็นการทำลายขวัญของกำลังฝ่ายปราบปรามได้อย่างมาก

(๑) การปฏิบัติการของกองโจรส่วนใหญ่จะเป็นการปฏิบัติเชิงรุก, ไม่ใช้การตั้งรับ ซึ่งการปฏิบัติการด้วยวิธีรุกนี้เอง ทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถจับทิศทาง หรือคาดคะเนเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้อง

(๒) กองโจรจะใช้การเคลื่อนที่แบบแทรกซึม แต่เมื่อใกล้จะถึงที่หมาย ก็จะรวมตัวกันเป็นหน่วยและเข้าปฏิบัติการต่อที่หมาย เทคนิคและวิธีการทั่วไปที่กองโจรมักนำมาใช้คือ การซุ่มโจมตี, การตีโฉบฉวย และการเข้าตีที่หมายจำกัด ซึ่งจะมุ่งปฏิบัติต่อเป้าหมายคือ ที่ตั้งของส่วนระวังป้องกัน, หน่วยทหารขนาดเล็ก, ที่ตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเส้นหลักการติดต่อสื่อสาร

(๓) เนื่องจากกำลังของฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่ากองโจรหลายเท่า, กองโจรจึงต้องพยายามหาโอกาสเข้าโจมตีต่อกำลังส่วนย่อยของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งแยกออกมาปฏิบัติการเป็นอิสระ ซึ่งกองโจรมักได้เปรียบและประสบชัยชนะ หากประสบความสำเร็จบ่อยครั้งเข้า ก็จะเป็นการบังคับให้กำลังของฝ่ายรัฐบาลต้องรวมตัวกันเป็นหน่วยใหญ่ และใช้การป้องกันด้วยวิธีรับ ซึ่งจะทำให้สูญเสียความริเริ่มและตกเป็นฝ่ายแก้ปัญหา ฝ่ายกองโจรจะได้จังหวะและโอกาสในการพัฒนากำลังของฝ่ายตนจนมีขีดความสามารถที่จะสู้รบกับกำลังของฝ่ายรัฐบาลในยุทธวิธีตามแบบได้มากขึ้น

๒ - ๖ ขั้นตอนการพัฒนาสถานการณ์

เมื่อมีการจัดตั้งองค์กรของฝ่ายกบฏ และมีการเริ่มปฏิบัติการแล้ว สถานการณ์จะพัฒนาต่อไปจนถึงขั้นการล้มล้างรัฐบาล ซึ่งสามารถสรุปเป็นขั้นตอนใหญ่ๆ ได้ ๓ ขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนอื่น ๆ นอกเหนือไปจาก ๓ ขั้นตอนนี้ และได้เกิดขึ้นล่วงหน้าแล้วจะไม่กล่าวถึง กำลังของฝ่ายรัฐบาลที่ใช้วิธีการรับมือนั้น จะไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแน่นอนว่า ฝ่ายกบฏจะพัฒนารูปแบบของ สถานการณ์จากขั้นหนึ่งไปสู่ขั้นต่อไปได้เมื่อใด เนื่องจากการปฏิบัติของฝ่ายกบฏในขั้นตอนที่ผ่านมาแล้ว อาจกลับมาปรากฏให้เห็นอีก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายกบฏจะพัฒนาความเข้มแข็งของตนได้มากยิ่งขึ้นหรือไม่ หากไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติการ ฝ่ายกบฏอาจย้อนกลับไปตั้งต้นในขั้นตอนที่ผ่านมา เช่น จากขั้นที่ ๓ กลับไปสู่ขั้นที่ ๒ หรือแม้แต่การกลับไปสู่ขั้นที่ ๑ อีก

ก. ขั้นที่ ๑ ขั้นแฝงตัวและก่อตัวของฝ่ายกบฏ การปฏิบัติการในขั้นนี้จะมีลักษณะของการบ่อนทำลาย ซึ่งอาจเป็นเพียงภัยคุกคามย่อย ๆ จนถึงระดับของการพัฒนาสถานการณ์ไปสู่การปฏิบัติการบ่อนทำลายที่มีบ่อยครั้ง และมีรูปแบบของการปฏิบัติขึ้น แต่จะไม่ปรากฏเหตุการณ์รุนแรงจนถึงขั้นควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ฝ่ายกบฏจะไม่ใช้รูปแบบของการปฏิบัติที่ซ้ำกัน แต่จะเลือกใช้วิธีการก่อการร้ายแบบต่าง ๆ ซึ่งฝ่ายกบฏมักจะประสบความสำเร็จในขั้นตอนนี้

ข. ขั้นที่ ๒ สงครามกองโจร ขั้นตอนนี้จะเริ่มขึ้นในเมื่อการเคลื่อนไหวของฝ่ายกบฏ มีจนถึงขั้นการได้เปรียบเฉพาะตำบลในการได้รับการสนับสนุน และเริ่มมีการใช้กำลังกองโจรที่จัดตั้งขึ้นเข้าปฏิบัติการกับกำลังของฝ่ายรัฐบาล เพื่อบังคับให้ตกเป็นฝ่ายรับ หากฝ่ายกบฏมีกำลังเข้มแข็งขึ้น ก็จะเริ่มปฏิบัติการใหญ่ขึ้น

ค. ขั้นที่ ๓ สงครามตามแบบ เมื่อฝ่ายกบฏได้ก่อกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนมีขีดความสามารถในการเผชิญหน้ากับฝ่ายรัฐบาลได้ ในลักษณะการต่อสู้ขั้นแตกหัก ฝ่ายกบฏก็จะเริ่มใช้ยุทธวิธีการรบตามแบบ ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน หรือเพิ่มเติมกำลังจากภายนอกประเทศ และฝ่ายกบฏก็อาจเริ่มใช้การรบด้วยวิธีรับมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันพื้นที่ที่ควบคุมได้ การปราบปรามและทำลายกำลังฝ่ายกบฏนี้ จำเป็นต้องใช้การวางแผนร่วมกัน และประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้น ในระหว่างรัฐบาลของประเทศปัญหา กับรัฐบาลของกองกำลังที่เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งกองกำลังต่างชาติมักถูกใช้ให้ปฏิบัติการในบทบาทของการสนับสนุนการรักษาความมั่นคงภายใน ตามยุทธศาสตร์ของประเทศนั้น ทั้งนี้ย่อมมีการอนุมัติให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาจัดตั้งฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่ ภายในเพื่อช่วยเหลือในโครงการด้านการพัฒนาและรักษาสมดุลย์ของประเทศ รวมทั้งการช่วยเหลือกองกำลังฝ่ายรัฐบาลด้วย กองกำลังต่างชาติที่เข้ามานี้ อาจใช้การปฏิบัติเชิงรุกเข้าขัดขวางและทำลายกำลังรบของฝ่ายกบฏ หรืออาจปฏิบัติการเพื่อขัดขวางการสนับสนุนฝ่ายกบฏจากภายนอกประเทศ ซึ่งทำให้ฝ่ายกบฏไม่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ หรือพื้นที่ของฝ่ายรัฐบาลได้ นอกจากนี้ ยังสามารถปฏิบัติการเพื่อรบกวนและขัดขวางการขยายผล และการรุกคืบหน้าของฝ่ายกบฏได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น