การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ
การปฏิบัติการเพื่อความต่อเนื่องในการรักษาสันติภาพจะต้องได้รับการยินยอมและยอมรับจากคู่กรณีความขัดแย้ง กองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องรักษาความเป็นกลางไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งความเชื่อถือและการยอมรับ หลักการปฏิบัติดังกล่าวอาจขัดขวางหรือจำกัดการใช้การสนับสนุนของประเทศเจ้าบ้านและการทำสัญญาว่าจ้าง การสนับสนุนโดยหน่วยสนับสนุนการช่วยรบของกองพลตามปกติควรจะต้องถูกนำมาใช้อย่างมากที่สุดในการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ การสนับสนุนจะสะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งฐานอย่างเรียบง่าย และโครงสร้างของการผสมผสานกันระหว่างการสนับสนุนของทหาร/การใช้การว่าจ้างพลเรือน
๘ - ๑๕ แผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือน
ในกองกำลังผสมนานาชาติของสหประชาชาติ และในภารกิจการสังเกตการณ์ อาจใช้การว่าจ้างพลเรือนให้รับภาระในด้านการดูแลความสะอาดของสถานที่ต่าง ๆ ภายในฐานที่ตั้งหน่วย, การซ่อมบำรุงยานพาหนะ และการสนับสนุนอื่น ๆ รวมทั้งระบบงานบริการ การสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้านอาจไม่ใช่องค์ประกอบหลัก ทั้งนี้เนื่องจากข้อพิจารณาทางด้านการเมือง ซึ่งมีผลมาจากลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการรักษาสันติภาพ, แผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือนอาจถูกนำมาใช้มากเป็นพิเศษกว่าในภารกิจหรือปฏิบัติการใด ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากการที่มีกำลังพลจากหลายชาติ และการปฏิบัติในลักษณะที่มิใช่การสู้รบโดยตรง เรื่องนี้ไม่ควรที่จะทำให้เกิดการสับสนกับข้อตกลงการสนับสนุนจากประเทศเจ้าบ้าน หรือการทำสัญญาว่าจ้างบุคลากรในท้องถิ่นหรือในประเทศที่สาม วัตถุประสงค์ของแผนงานเสริมการส่งกำลังบำรุงจากพลเรือนประกอบด้วย การวางแผนการใช้ลูกจ้างพลเรือน เพื่อปฏิบัติงานด้านการบริการประจำ เพื่อเสริมให้กับกำลังรบของกองทัพบก การว่าจ้างดังกล่าวอาจกระทำในลักษณะเป็นชุด หากปรากฏเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย และการปฏิบัติการในความขัดแย้งระดับต่ำนั้นเกิดขึ้นในประเทศที่เราสามารถดำเนินการทำสัญญาว่าจ้างดังกล่าวได้
¬๘ - ๑๖ การวางแผน
ในการวางแผนเพื่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ฝอ.๓ และ ฝอ.๑/ฝอ.๔ จะระบุหน่วยที่ต้องการการสนับสนุนการช่วยรบ และดำเนินการจัดหาตามความต้องการเป็นระบบครบทั้งระบบ การวางแผนจะต้องจัดให้มีเครื่องมือการขนส่งอย่างพอเพียง เพื่อให้สนองตอบหน่วยกำลังรักษาสันติภาพที่ต้องการเปลี่ยนย้ายที่ตั้งและวางกำลังอย่างรวดเร็ว หากมีความจำเป็นต้องการใช้เครื่องมือการขนส่งจำนวนมากกว่าที่มีอยู่ในอัตราการจัดหน่วยของกองกำลังรักษาสันติภาพแล้ว ก็จะต้องรีบดำเนินการจัดทำแผนและเสนอความต้องการเป็นการล่วงหน้า ก. หน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่สนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องจัดนายทหารติดต่อไว้กับ ผบ.หน่วย และฝ่ายอำนวยการของหน่วยรับการสนับสนุน การให้คำแนะนำและแนวอย่างทันเวลา จะทำให้หน่วยสามารถริเริ่มการวางแผนและเตรียมการในรายละเอียดเพื่อปฏิบัติภารกิจตามต้องการได้ หน่วยสนับสนุนกองบัญชาการระดับสูงขึ้นไป สามารถดำเนินการสนับสนุนการช่วยรบได้โดยตรงไปยังกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN
(๑) สิ่งที่เป็นหลักบางประการที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพ ได้แก่.-
• การส่งกำลังและการบริการ
• การใช้บุคคลพลเรือนในท้องถิ่น
• การใช้ถนน, สิ่งอำนวยความสะดวกทางการไปรษณีย์, สนามบิน และทางรถไฟ
(๒) การพิจารณาวางแผนจะรวมไปถึง.-
• การจัดเฉพาะกิจของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบแบบพิเศษ
• การใช้ฐานการสนับสนุนเร่งด่วนใกล้ ๆ กับที่วางกำลัง
ข. การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ให้กับกองกำลังรักษาสันติภาพ จะใช้เวลามากกว่าปกติ หากเป็นการขนส่งทางเรือ จากความจริงในข้อนี้ การสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์ในขั้นต้นจึงต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า ระดับสะสมของชิ้นส่วนการซ่อมบำรุงและสิ่งอุปกรณ์อื่นจะต้องเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่สามารถสนับสนุนกองกำลังที่ปฏิบัติงานได้ในระยะเวลายาวนาน รายการสิ่งอุปกรณ์สำหรับสนับสนุนด้วยตนเองเป็นสิ่งที่จำเป็น ส่วนประเภทและจำนวนจะขึ้นอยู่กับประเภทของหน่วยรับการสนับสนุน
ค. กองกำลังอาจต้องพึ่งพาการทำสัญญาจัดซื้อจัดหาสิ่งอุปกรณ์ประเภทอาหารสดเช่นเดียวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบเลี้ยง ดังนั้นการวางแผนและการประสานงาน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดเตรียมเสบียงเสริมเพิ่มเติม การสนับสนุนด้านการตรวจสอบของสัตวแพทย์จะต้องมีการวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับรองรับกิจกรรมการจัดซื้อ นอกจากนี้อาจมีความต้องการใช้เสบียง MRE หรือเสบียงสำเร็จรูปประเภทอื่น ๆ สำหรับกำลังพลของหน่วยที่ต้องออกปฏิบัติงานการเฝ้าตรวจ เนื่องจากหน่วยรองของกองพันอาจให้การสนับสนุนกำลังพลทั้งหมดของกองกำลังรักษาสันติภาพได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณา ชนิด ประเภทและส่วนประกอบที่แน่นอนของอาหารที่ต้องจัดหาและประกอบให้กับกำลังพลที่นับถือบางศาสนา และมีข้อจำกัดเกี่ยวกับประเภทนี้ไว้
ง. การจัดหาน้ำจะถูกรวมอยู่ในสัญญาการจัดหาทั้งหมด, ซึ่งอาจดำเนินการจากแหล่งน้ำในท้องถิ่น หรือจัดหาน้ำจากหน่วยที่ทำให้บริสุทธิ์และผลิตแจกจ่าย ผบ.หน่วยจะต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่สายแพทย์ด้านเวชกรรมป้องกันเพื่อทดสอบ และรับรองน้ำที่มาจากทั้งแหล่งในท้องถิ่น หรือที่ผลิตขึ้นจากระบบของหน่วยทหาร
จ. การบริการในฐานที่ตั้งสำหรับกำลังพลที่ปฏิบัติการรักษาสันติภาพ สามารถจัดรวมอยู่ในสัญญาการจัดจ้างทั่วไป ส่วนจะมีการขยายเวลาการดำเนินการต่อไปหรือเป็นการถาวรนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการปฏิบัติการการสนับสนุนด้านกิจการเก็บรักษาศพโดยทั่วไปแล้วจะมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า การจัดการสำหรับการบริการต่อไปนี้จะต้องถูกดำเนินการไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้พร้อมเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง :
• การอาบน้ำ
• การซักรีด
• การตัดผม
• การบริการไปรษณีย์และแลกเปลี่ยนเงินตรา
• สิ่งอำนวยความสะดวกในการพักผ่อนหย่อนใจ
• ระบบงานด้านการช่าง
• การดับเพลิง
• ช่างซ่อมเสื้อผ้า
• การบริการไฟฟ้า
ฉ. เมื่อฝ่ายเป็นกลางไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหา และคู่กรณีทั้งหมดยินยอม, ก็อาจใช้การทำสัญญาว่าจ้างการซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ทั้งแบบของทหารและแบบของพลเรือน การใช้แรงงานภายในประเทศเจ้าบ้านจะช่วยทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศนั้นเจริญเติบโต และช่วยเพิ่ม สัมพันธภาพ เมื่อแรงงานของประเทศเจ้าบ้านเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ความจำเป็นในด้านการสื่อสารด้วยภาษาและคุณวุฒิด้านการใช้ภาษาก็จะเพิ่มความสำคัญขึ้นเป็นเงาตามตัว
ช. หน่วยระดับกรมอาจต้องการรับความช่วยเหลือหน่วยสนับสนุนในอัตราของกองพลและกองทัพน้อย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในขีดความสามารถด้านการขนส่ง และให้เกิดความอ่อนตัว และความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ให้กับหน่วยที่รับการสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ควรจะพิจารณาใช้การว่าจ้างหรือจัดหาแรงงานจากในประเทศเจ้าบ้าน หรือกลุ่มประเทศที่สามให้มากที่สุด เพื่อสนองตอบความต้องการในด้านการขนส่ง หากต้องใช้ยานพาหนะของกองทัพแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดทำใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะภายในประเทศ หรือใบขับขี่ยานพาหนะสากลให้กับพลขับ นอกจากนี้ยังจะต้องมีการตรวจสอบสภาพข่ายถนนและเส้นทางก่อนที่กำลังพลเดินทางเข้าถึงประเทศนั้น ๆ ข้อมูลปัจจุบันเกี่ยวกับถนนและสะพานเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งนี้รวมถึงเส้นหลักการส่งกำลังบำรุงทั้งที่สามารถใช้ได้ และที่จำกัดการใช้ยานพาหนะ ตัวอย่างเช่น จำกัดขนาดของรถยนต์บรรทุก, น้ำหนักของรถยนต์บรรทุก เมื่อจะใช้ถนนเหล่านั้น
ซ. การสนับสนุนทางด้านการแพทย์ของกองกำลังรักษาสันติภาพ จะดำเนินการโดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานการบริการด้านสุขภาพ นายแพทย์ของกรมจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการวางแผนงานด้านการแพทย์ทั้งหมด ส่วนการสนับสนุนด้านการแพทย์ทั้งหมดที่จะดำเนินการให้กับประเทศเจ้าบ้านนั้น ตามปกติแล้วจะเป็นไปในลักษณะจำกัด การประสานงานอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องจะช่วยป้องกันการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ มิให้เบี่ยงเบนไปจากระบบงานและวัตถุประสงค์
ตอนที่ ๔
การปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ
ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารจะดำเนินการพิจารณาลำดับขั้นตอนของการเคลื่อนย้ายและวางกำลังของหน่วยกำลังรบทางยุทธวิธี, ส่วนสนับสนุน, กำลังพลเพิ่มเติมและทดแทน และการสนับสนุนสิ่งอุปกรณ์จำนวนมากในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ เช่นเดียวกันกับในการปฏิบัติการลักษณะอื่น ๆ ฝอ.๔ จะเป็นผู้ประสานงานการเคลื่อนย้ายและวางกำลังของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบ ตลอดจนเป็นผู้เสนอแนะในลำดับขั้นตอนการเคลื่อนย้าย หากเกิดความไม่สมดุลขึ้นใน กองกำลัง ตามปกติแล้ว การส่งกำลังสนับสนุนโดยตรง และส่วนบริการ, ซ่อมบำรุง, สนับสนุนชิ้นส่วนซ่อม, การขนส่ง และการส่งกำลัง สป.๓ และ สป.๕ จะมีความจำเป็นอย่างมากในช่วงต้นของการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ หน่วยบริการในสนามของกองพลและกองทัพน้อยจะยังไม่มีความจำเป็นในช่วงต้น แต่อย่างไรก็ตาม หน่วยดังกล่าวจะต้องถูกจัดลำดับไว้แต่เนิ่น เพื่อดำเนินการจัดหาความต้องการทางกายภาพของหน่วย ความต้องการของหน่วยรับการสนับสนุนจะขึ้นอยู่กับลักษณะธรรมชาติของการปฏิบัติการ ความคงทนของหน่วยและสภาพสิ่งแวดล้อม
๘ - ๑๗ การวางแผน
หน่วยสนับสนุนการช่วยรบของกรมไม่มีความอ่อนตัวเพียงพอที่จะดำเนินงานด้านการสนับสนุนการช่วยรบให้กับความต้องการตามแผนเผชิญเหตุได้ ส่วนสนับสนุนการช่วยรบของกองพล และกองทัพน้อย สามารถที่จะเคลื่อนย้ายเข้าไปในสภาพแวดล้อมของประเทศฝ่ายตรงข้าม พร้อมกันหรือภายหลังจากที่กำลังรบส่วนแรกได้ลงสู่พื้นแล้ว หน่วยสนับสนุนของกองพลที่ได้ถูกเลือกไว้ควรจะต้องลงสู่พื้นตามหลังหน่วยรบให้เร็วที่สุด ส่วนสนับสนุนการช่วยรบบางส่วนสามารถเข้าไปถึงภายในประเทศ หรือในประเทศที่อยู่ข้างเคียงก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายกำลังอย่างแท้จริง ส่วนต่างดังกล่าวแล้วนั้น สามารถเดินทางเข้าไปโดยทางอากาศโดยใช้เครื่องบินพาณิชย์ และเคลื่อนย้ายเข้าไปในพื้นที่ของความขัดแย้งเพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นส่วนควบคุมสนามบินให้กับกำลังส่วนใหญ่
ก. เมื่อดำเนินการพัฒนาแผนยุทธการ, ฝอ.๔ จะพิจารณาดำเนินการในเรื่องแหล่งทรัพยากรที่จะใช้สนับสนุนกองกำลังสามารถรับการส่งกำลังพลเพิ่มเติมจากภายในประเทศ หรือภายนอกประเทศ (นอกยุทธบริเวณ) หรือจากประเทศที่สาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนย้ายทางอากาศยุทธศาสตร์ หรือทางทะเลที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายกำลังและการส่งกำลังเพิ่มเติม เนื่องจากลักษณะเฉพาะของความต้องการในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ กิจกรรมในการปรนนิบัติบำรุง ซ่อมบำรุงที่สิ้นเปลืองเวลาและระบบการบริหารจัดการอาจดำเนินการภายในฐานการสนับสนุนภายในประเทศ เพื่อให้ได้ยุทโธปกรณ์ที่มีสภาพพร้อมใช้งานในภารกิจส่งกลับไปยังผู้ใช้ หากสถานการณ์ได้ขยายลุกลามจากความขัดแย้งระดับต่ำ กลายเป็นความขัดแย้งระดับปานกลางแล้ว โครงสร้างของการสนับสนุนภายในพื้นที่ปฏิบัติการก็จำเป็นต้องขยายตัวตามสถานการณ์
ข. ในระหว่างขั้นตอนของการก่อกำลัง, ฝอ.๑/ฝอ.๔ จะต้องทราบจำนวนของหน่วยสนับสนุนการช่วยรบที่อยู่ในประเทศเจ้าบ้าน เนื่องจากหน่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันอาจเป็น ส่วนแยก, ชุด และกองร้อยที่ปฏิบัติการเป็นอิสระ เพื่อปฏิบัติการบังคับบัญชาและควบคุมให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด, ผบ.หน่วยจะต้องรวบรวมบางส่วนของกองบังคับการกรมสนับสนุนไว้ตั้งแต่เนิ่น ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้สามารถจัดส่วนย่อย ๆ ขึ้นมาโดยมีขนาดเหมาะสม และสามารถจัดโครงสร้างการบังคับบัญชาและควบคุมขึ้นได้ การจัดเตรียมนี้ควรได้มีการจัดระเบียบใหม่ตามที่ทรัพยากรและโอกาสจะเอื้ออำนวยให้ เมื่อสถานการณ์ได้พัฒนาไปแล้ว ที่บังคับการชั่วคราวก็จะกลับมาทำหน้าที่ตามบทบาทปกติ
ค. ฝอ.๑ จะต้องจัดทำ รปจ. ในการทดแทนกำลังพล รวมทั้งการประสานงานกับนายแพทย์ของกองพัน/กรม ในเรื่องนโยบายการส่งกลับสายแพทย์ ความต้องการในการทดแทนกำลังพลจะมีพื้นฐานอยู่ที่การประมาณการณ์เกี่ยวกับยอดกำลังพลที่คาดว่าจะสูญเสีย แหล่งของกำลังพลทดแทนจะต้องถูกระบุกำหนดขึ้น รวมทั้งต้องมีการกำหนดขั้นตอนกระบวนการให้กับกำลังพล ตามแผนการ ทดแทน นอกจากนี้ ยังอาจหมายรวมถึงการแจกจ่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ ณ ที่ตั้งในท้องถิ่น ซึ่งจะต้องกระทำ ณ ศูนย์การกำลังทดแทน หรือ ณ ที่ตั้งของหน่วยที่รับการทดแทน
ง. ฝอ.๔ จะจัดทำความต้องการในเรื่อง การส่งกำลัง, การบริการ และการซ่อมบำรุง โดยใช้พื้นฐานจากโครงสร้างของกองกำลัง และการประมาณการณ์ในเรื่องของความขัดแย้ง ฝอ.๔ จะต้องส่งข้อมูลนี้ให้กับผู้วางแผน เพื่อที่จะปรับปรุงพัฒนาให้ได้จำนวนสิ่งอุปกรณ์ที่จะต้องสนับสนุน และ การจัดวางการส่งกำลัง สป.๓ ทางท่อ
จ. ฝอ.๔ จะต้องตรวจสอบระบบการขนส่งจากจุดแยกไปจนถึงตำบลปลายทาง ฝอ.๔ และนายทหารกิจการพลเรือนจะต้องประสานกันในเรื่องจำนวนของสิ่งอุปกรณ์ที่สามารถรับการสนับสนุนได้จากประเทศเจ้าบ้าน หรือที่ต้องสนับสนุนให้กับประเทศเจ้าบ้านในการปฏิบัติการ
ฉ. ฝอ.๔ จะต้องพิจารณาในเรื่องระบบการสนับสนุนการช่วยรบที่เป็นภาระของกองบัญชาการหน่วยเหนือขึ้นไป ที่อยู่ในความต้องการพื้นฐาน เช่น การจัดผลิตน้ำประปา โดยพยายามจัดให้อยู่ในโครงสร้างของกองกำลัง
๘ - ๑๘ กิจที่สำคัญยิ่ง
เมื่อประเทศเจ้าบ้านที่เป็นชาติพันธมิตรร้องขอการช่วยเหลือจากกองทัพสหรัฐ ฯ ในขณะที่เกิดภัยคุกคาม แต่ยังไม่ถึงขั้นของสถานการณ์สู้รบ หน่วยสนับสนุนการช่วยรบอาจถูกจัดเพิ่มเติมอยู่ในส่วนกำลังรบในการเคลื่อนย้ายกำลัง ซึ่งส่วนสนับสนุนการช่วยรบนี้จะตอบสนองความต้องการในเรื่องการสนับสนุน, หน่วยและวัสดุอุปกรณ์สำหรับส่วนกำลังรบในขณะที่เดินทางถึงตำบลปลายทาง หากได้มีการเริ่มปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบในประเทศของฝ่ายตรงข้ามแล้ว, ส่วนสนับสนุนการช่วยรบเพิ่มเติมส่วนแรกจะถูกเคลื่อนกำลังเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการในทันทีที่ยึดที่หมายได้ และได้มีการระวังป้องกันพื้นที่ฐานปฏิบัติการแล้ว การปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน การขนส่ง, งานด้านการช่าง, กาสรสารวัตร, การติดต่อสื่อสาร, การบริการสุขภาพ, การสนับสนุนด้านการเงิน และระบบการสนับสนุนด้านกำลังพลสำหรับการปฏิบัติการ จะเพิ่มความสำคัญขึ้นในขั้นนี้ กิจที่จะต้องดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงและสถาปนาขึ้น ได้แก่.-
• สิ่งอำนวยความสะดวกด้านอสังหาริมทรัพย์
• การจัดการเรื่องการขนส่งอุปกรณ์ลงจากอากาศยาน และเรือ
• ข่ายการขนส่ง
• การเลือกทำเลที่ตั้งสำหรับการสนับสนุนด้านบริการสิ่งอำนวยความสะดวกและที่พัก
• สิ่งอำนวยความสะดวกในการรับ, เก็บรักษา และการจัดทำบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์
• การควบคุมการเคลื่อนย้ายขนส่ง
• การสื่อสารและระบบพลังงาน
• การรักษาความปลอดภัยสำหรับการสนับสนุนด้านบริการ
• น้ำดื่ม
• กำลังพลสนับสนุนการปฏิบัติการในขั้นแรก
• การซักรีดและการซ่อมแซมเสื้อผ้า
• กิจการศพ
• การดำรงชีพ
• การส่งกำลัง สป.๓ (จำนวนมาก)
• การส่งกำลัง สป.๕
• ชิ้นส่วนซ่อม
• ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนสำหรับวัตถุประสงค์ของผู้บังคับบัญชา/การประชา-สัมพันธ์
ผนวก ก
การก่อความไม่สงบในเมือง
เมืองและชุมชนมีความล่อแหลมต่อความรุนแรงของการก่อความไม่สงบในเมือง ทั้งนี้เนื่องจากเป็นจุดสำคัญของเศรษฐกิจและอำนาจรัฐ สาธารณสมบัติและสถานบริการต่างย่อมถูกรบกวนและเกิดความเสียหาย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลอาจถูกมองในแง่ของการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ กองกำลังทหารของสหรัฐฯ ที่ถูกใช้ในสภาพความขัดแย้งระดับต่ำ อาจต้องเข้าปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวเมือง เพื่อให้การสนับสนุนกำลังตำรวจ หรือทหารของประเทศเจ้าบ้าน
ก – ๑ ผลกระทบจากสภาพแวดล้อมของตัวเมือง
ด้วยลักษณะของชุมชนที่มีจำนวนประชากรมากในพื้นที่ที่ไม่กว้างใหญ่นัก จะเอื้ออำนวยต่อการปกปิดและซ่อนตัวของฝ่ายกบฏหรือพวกก่อความไม่สงบ แต่อย่างไรก็ตามพวกก่อความไม่สงบก็อาจได้รับการสนับสนุนเฉพาะพื้นที่บางแห่งของเมืองหรือชุมชน พวกก่อความไม่สงบในเมืองมักจะหลบซ่อนตัวอยู่ในชุมชนที่เป็นฝ่ายเดียวกัน หรือในชุมชนที่ประชากรมีความหวาดกลัวอย่างมากจนไม่อาจปฏิเสธการให้ความสนับสนุนหรือการให้ข่าวสารที่พวกก่อความไม่สงบต้องการได้ กลุ่มบุคคลเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้นำหรือพวกก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นและอาจมีการติดต่อสื่อสารโดยใช้สตรีและเด็ก ซึ่งสามารถปกปิดการดำเนินการในด้านอื่นๆได้อีก
ก. พวกก่อความไม่สงบในเมืองสามารถปฏิบัติการได้อย่างอุกอาจมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในชนบท ด้วยยุทธวิธีและสาเหตุดังกล่าวมาแล้ว พลซุ่มยิงจะใช้การแอบซุ่มตามสถานที่ต่าง ๆ ในลักษณะตามแบบได้อย่างกว้างขวาง นอกจากหนี้วัตถุระเบิดยังอาจถูกใช้ได้ทั้งที่เป็นเครื่องมือดำเนินการต่อชุมชน หรือต่อบุคคลและกลุ่มบุคคล
ข. จำนวนประชาชนที่มีอยู่มากมาย ย่อมง่ายต่อการชุมนุมรวมตัวกัน และแสดงออกได้อย่างกว้างขวาง การปรากฏตัวของสตรีและเด็กย่อมจำกัดการปฏิบัติการของกำลังฝ่ายปราบปราม การปฏิบัติการใด ๆ ที่ขาดความยั้งคิดและความรอบคอบ อาจกลายเป็นสาเหตุหลักที่ฝ่ายก่อความไม่สงบสามารถนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้ การเผยแพร่ข่าวสารย่อมกระทำได้ง่ายในพื้นที่ตัวเมือง ทั้งนี้เพราะการรวมตัวกันและการสื่อข่าวเป็นไปได้โดยไม่มีการกีดขวางใด ๆ ความสำเร็จของกลุ่มผู้ก่อการร้ายสามารถถูกนำไปขยายผลเพื่อลดความเชื่อถือของตำรวจ, กองกำลังฝ่ายปราบปราม และรัฐบาล ทั้งย่อมมีผลต่อการป้องกันตนและการควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายก่อความไม่สงบ
ค. พวกก่อความไม่สงบในเมือง ย่อมไม่สามารถจัดตั้งฐานปฏิบัติการหรือรวมตัวกันเป็นหน่วยติดอาวุธที่มีขนาดใหญ่ได้ เหมือนกับพวกกองโจรที่อยู่ตามพื้นที่ชนบทห่างไกล ดังนั้นจึงต้องกระจายกันอยู่เป็นบุคคล หรือเป็นสมาชิกในกลุ่มเล็ก ๆ พวกก่อความไม่สงบนี้ต้องพึ่งพาอาศัยการหลบซ่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มประชาชนในเมือง และใช้การก่อการร้ายเพื่อป้องกันการเอาใจออกห่าง การปฏิบัติการเป็นบุคคลหรือกลุ่มเล็ก ๆ จะมีประสิทธิภาพมากในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เพราะง่ายต่อการหลบหลีกการจับกุม และหากถูกจับกุม ก็เป็นเพียงบุคคลสองหรือสามคนเท่านั้นที่จะถูกเปิดเผยตัวต่อฝ่ายรัฐบาล
ก – ๒ ยุทธวิธีของพวกก่อความไม่สงบ
พวกก่อความไม่สงบหรือพวกกบฏที่อยู่ในเมือง จะทำงานอย่างโดดเดี่ยวคนเดียว หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ด้วยยุทธวิธีที่แตกต่างไปจากพวกที่อยู่ในชนบทห่างไกล ยุทธวิธีดังกล่าวจะประกอบด้วย
ก. การทำลายโรงงานอุตสาหกรรมและสถานบริการของรัฐ ด้วยการโจมตีและก่อวินาศกรรม
ข. ก่อเหตุตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง เพื่ทอทำให้กองกำลังของฝ่ายปราบปรามต้องกระจายกำลังกันออกไป
ค.ก่อเหตุการณ์หรือก่อการรวมตัวของฝูงชนเพื่อหลอกล่อให้กองกำลังฝ่ายปราบปรามติดกับดัก
ง. ยั่วยุให้กองกำลังของฝ่ายปราบปรามต้องปฏิบัติการด้วยความรุนแรงเกินเหตุ ซึ่งฝ่ายกบฏสามารถนำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อได้
จ. ยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้ากับฝูงชน
ฉ. การซุ่มยิงตามจุดปิดกั้นถนน, ที่ตั้งยาม, จุดเฝ้าตรวจและทหารเป็นบุคคล
ช. โจมตียานพาหนะและอาคารด้วยการยิงจรวดและเครื่องยิงลูกระเบิด
ซ. การวางระเบิดต่อเป้าหมายเฉพาะบางแห่ง หรือเป็นแห่ง ๆ เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหาย และทำลายขวัญของประชาชน
ด. ซุ่มโจมตีชุดลาดตระเวน และยิงเฮลิคอปเตอร์
ก – ๓ การปฏิบัติการ
การปฏิบัติการต่อพวกก่อความไม่สงบในเมือง อาจะเป็นได้ทั้งมาตรการเชิงรับและเชิงรุก มาตรการเชิงรับจะใช้เพื่อลดการปฏิบัติการก่อการร้าย โดยวิถีชีวิตของประชาชนยังสามารถดำเนินไปได้ (แต่มีการจำกัดลงบ้าง) มาตรการเชิงรุกจะประกอบด้วย การใช้กำลังของฝ่ายปราบปรามออกตรวจค้นและจับกุม หรือสังหารฝ่ายก่อความไม่สงบ ระดับของความขัดแย้งซึ่งจะต้องใช้ปฏิบัติการตอบโต้จะดำเนินการพิจารณาโดยฝ่ายรัฐบาล การต่อสู้กับพวกก่อความไม่สงบในเมืองเป็นภารกิจของตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าช่วยเหลือ หรือเข้าปฏิบัติการเอง เทคนิคการปฏิบัติคงเป็นเช่นเดียวกับการปฏิบัติการในพื้นที่ชนบทห่างไกล ก่อนเริ่มปฏิบัติการ จะต้องได้รับข่าวสารเกี่ยวกับข้าศึก, สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของข้าศึก และวิธีการปฏิบัติของข้าศึก เทคนิคของฝ่ายปราบปรามจะประกอบด้วย :
• การป้องกันฐานที่ตั้ง
• การปิดกั้นถนนและตั้งจุดตรวจ
• การแยกสลายฝูงชน
• การปฏิบัติการตรวจค้น
• การลาดตระเวนเฝ้าตรวจ
ก – ๔ การใช้กำลังน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
ในสภาพแวดล้อมของตัวเมือง หลักการใช้กำลังน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นจะมีความสำคัญ และเกี่ยวเนื่องกับกฎของการปะทะ อันตรายอย่างใหญ่หลวงจะเกิดขึ้นจากการทำให้พลเรือนที่บริสุทธิ์ที่อยู่ในย่านชุมชนต้องบาดเจ็บ หรือล้มตาย การปฏิบัติการกวาดล้างจะต้องมีการปรับและประยุกต์เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนเหล่านั้น การใช้ลูกระเบิดขว้างโยนเข้าไปในห้องก่อนที่จะเคลื่อนที่เข้าไปนั้นอาจเป็นการขัดแย้งกับกฎของการปะทะอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากเราทราบที่ตั้งของฝ่ายกบฏที่อยู่โดดเดี่ยวแล้ว ก็สามารถใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงในการยิงทำลาย ซึ่งระบบอาวุธเหล่านี้จะยังความเสียหายแก่บริเวณข้างเคียงน้อยที่สุด และลดโอกาสที่จะทำให้ประชาชนหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบต้องได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเรามักไม่ค่อยพบกลุ่มกบฏเป็นกลุ่มใหญ่ในตัวเมือง ดังนั้นจึงไม่มีฐานที่มั่นของกลุ่มบุคคลเหล่านั้น นอกจากจะมีเพียงบ้านที่ใช้เป็นแหล่งซ่อนตัว และนอกเหนือไปจากนี้การสังหารหรือจับพวกกบฏและพวกก่อความไม่สงบยังจะต้องใช้เวลานานและยากมากที่จะทำได้ เช่นเดียวกับการเข้าตีแบบประณีตก็มักจะไม่เกิดขึ้น
ผนวก ข
การใช้ควัน, เครื่องฉีดไฟ, สารทำลายพืช และสารปราบจลาจล
ในผนวกนี้ จะอธิบายแนวทางในการใช้สารเคมี และสิ่งอุปกรณ์สายวิทยาศาสตร์ในการปราบปรามการก่อความไม่สงบ
ข – ๑ ควัน
ควัน อาจถูกนำมาใช้เพื่อการพิสูจน์ฝ่าย, ทำสัญญาณ, การอำพราง, การลวง และการทำฉากกำบัง ควันสามารถช่วยการพิสูจน์ฝ่ายและใช้ชี้เป้าหมาย, ช่วยในการส่งกำลังและการส่งกลับ รวมทั้งการใช้บอกตำแหน่งของหน่วยทหารฝ่ายเดียวกัน นอกจากนี้แล้วยังช่วยให้ผู้บังคับหน่วยปราบปรามการก่อความไม่สงบเตรียมการจัดการสื่อสารในสนามรบได้อีกด้วย
ก. การอำพรางช่วยในการลวง ทำให้ข้าศึกเข้าใจผิด, ซ่อนพรางการดำเนินกลยุทธ์ และช่วยเพิ่มสัดส่วนของศักย์ในการรบเมื่อฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถมองเห็นเป้าหมาย ควันสนับสนุนการปฏิบัติการในสภาวะความขัดแย้งระดับต่ำได้ด้วยการทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเหมือนอยู่โดดเดี่ยวและถูกตัดขาด ทำให้บั่นทอนกำลังใจในการสู้รบ ในการปฏิบัติต่อต้านการก่อการร้าย ควันจะจำกัดการใช้สนามบินหรือสิ่งอำนวยความสะดวก และซ่อนพรางการเคลื่อนที่ของกำลังฝ่ายต่อต้านการก่อการร้าย นอกจากนี้ยังจำกัดประสิทธิภาพในการใช้เครื่องช่วยมองเห็นที่ฝ่ายก่อการร้ายได้รับการสนับสนุนมาจากประเทศอื่น
(๑) การใช้วิธีอำพรางในการต่อต้านการก่อการร้าย หรือการปราบปรามการก่อความไม่สงบ จำเป็นต้องใช้การวางแผนในลักษณะเดียวกันกับการปฏิบัติการในความขัดแย้งระดับปานกลางจนถึงความขัดแย้งในระดับสูง หากได้มีการวางแผนอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว การอำพรางจะช่วยเพิ่มโอกาสอยู่รอดให้กับทหารฝ่ายเดียวกัน โดยซ่อนพรางหน่วยทหารฝ่ายเดียวกันจากการตรวจการณ์ของฝ่ายข้าศึก และช่วยป้องกันการรวบรวมข่าวสารจากฝ่ายข้าศึก โดยไม่ลดขีดความสามารถในการปฏิบัติการของฝ่ายเรา
(๒) ในการปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุในยามสงบ หน่วยทหารใช้ควันเพื่อป้องกันกำลังในการปฏิบัติการแสดงกำลังหรือแสดงการลวง ในระหว่างการปฏิบัติการส่งลงหรือการเข้าตีโฉบฉวย หน่วยทหารจะใช้การอำพรางเพื่อปกปิดพื้นที่ส่งลงและทางเข้าสู่ตัวอาคาร และทำให้ข้าศึก สับสนในเรื่องขนาดและกำลังของฝ่ายเรา การใช้การอำพราง สามารถลดประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมและบังคับบัญชาของข้าศึก และช่วยเพิ่มโอกาสในความสำเร็จของฝ่ายเรา ในระหว่างการถอนตัวกลับจากการแทรกซึม ควันจะช่วยปกปิดเส้นทางและสามารถช่วยให้กำลังของฝ่ายเราผละออกจากการปะทะและหลบหนีออกมาได้ การปฏิบัติการลวงโดยใช้ควันจะต้องมีการวางแผนและเบี่ยงเบนความสนใจของข้าศึกออกจากการปฏิบัติการตามเจตนารมณ์ของฝ่ายเรา
ข. แหล่งกำเนิดควันจะได้มาจาก :
(๑) เครื่องมือกลที่ใช้สร้างฉากควัน (เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่)
(๒) ลูกระเบิดขว้างควัน (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, ทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย)
(๓) หม้อควันแบบเอ็ม ๑, ขนาด ๑๐ ปอนด์ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก)
(๔) หม้อควันแบบ ABC-เอ็ม ๕, ขนาด ๓๐ ปอนด์ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก)
(๕) หม้อควันลอยน้ำแบบ เอ็ม ๔ เอ ๒ (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, บนพื้นดินหรือผิวน้ำ)
(๖) ลย./ค. WP ควัน และกระสุน ป.WP และ HC (ใช้อำพราง, ทำสัญญาณ, ทำการลวง,พิสูจน์ฝ่าย, ทำฉากควัน)
(๗) กระสุนปืนใหญ่รถถัง WP. ขนาด ๙๐ มม. และ ๑๐๕ มม. (สร้างฉากควันขนาดเล็ก, ใช้อำพราง, ทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย)
(๘) ลูกระเบิดควันยิงจากรถถัง, ยานรบทหารราบ และ ค.เอ็ม ๒๐๓ (สร้างควันกำบังเป็นบุคคล)
(๙) ระบบสร้างควันจากไอเสียของยานยนต์, รถถัง และยานรบทหารราบ (สร้างควันกำบังเป็นบุคคล)
(๑๐) เครื่องมือผลิตควันปล่อยจากอากาศยาน (สร้างฉากควันขนาดใหญ่)
ค. การสร้างฉากควันอาจได้ผลน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและภูมิประเทศ ตัวอย่างเช่น กระแสลมอาจพัดแรงมาก หรือพัดไปในทิศทางที่ไม่ต้องการ การทำสัญญาณ, พิสูจน์ฝ่าย และการอำพราง เป็นภารกิจการใช้ควันที่เหมาะสมในขั้นตอนต่าง ๆ ของการปฏิบัติการปราบปรามการก่อความไม่สงบ
ข – ๒ เครื่องฉีดไฟ และเครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒
เปลวไฟจากเครื่องฉีดไฟและสะเก็ดระเบิดเพลิง จะสร้างอำนาจการเผาผลาญทำลายในพื้นที่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑๐๐ เมตร เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการตั้งรับ หากต้องการทำการยิงไปยังเป้าหมายเฉพาะจุด ก็ควรใช้เครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒ ยิงเพื่อเผาทำลายที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม
ก. ทุ่นระเบิดเพลิง เป็นอาวุธสังหารที่กำหนดทิศทางการใช้และสามารถจุดระเบิดด้วยเครื่องมือหรือทำงานด้วยลวดสะดุด เปลวเพลิงที่กระจายออก และสะเก็ดระเบิดเพลิงจะมีอำนาจการเผาผลาญทำลายในพื้นที่ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ ๒๐ ถึง ๑๐๐ เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของทุ่นระเบิด
ข. ท่อระเบิดเพลิง (เปลวเพลิง/สะเก็ดระเบิดเพลิง) มีลักษณะคล้ายคลึงกับทุ่นระเบิด ยกเว้นอำนาจการระเบิดจะพุ่งตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (มากกว่าที่จะกระจายออกไปทุกทิศทาง) ถังรูปทรงกระบอกขนาด ๕๕ แกลลอน มักจะถูกใช้เป็นท่อบังคับทิศทางของเปลวเพลิงและสะเก็ดระเบิดท่อดังกล่าวที่ใช้บังคับทิศทางจะถูกวางในคูรูปตัววี ที่มีกระสอบทรายปูพื้น และวางดินระเบิดไว้ตรงด้านหลังของท่อ เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น เปลวเพลิง และเศษชิ้นของโลหะจะถูกแรงระเบิดดันออกไปในระยะประมาณ ๒๐๐ เมตร หรือมากกว่านั้น (ในรูปทรงของตัว V กระจายออกกว้าง)
ค. เครื่องยิงจรวดแบบ เอ็ม ๒๐๒ ประกอบด้วยลูกจรวด ๔ ลูก ซึ่งจะระเบิดออกเป็นเปลวเพลิงพุ่งไปสู่เป้าหมาย เครื่องมือช่วยการเล็งบนตัวเครื่องยิงจะทำให้ลูกจรวดพุ่งเข้าสู่เป้าหมายในการรบประชิดได้อย่างแม่นยำ
ข – ๓ สารทำลายพืช
กองทัพสหรัฐ ฯ จะปฏิเสธการใช้สารทำลายพืชในอันดับแรกของการทำสงคราม ยกเว้นการใช้เพื่อกำจัดหรือควบคุมพืชพันธุ์ไม้ และวัชพืชภายในฐานที่ตั้งและหน่วยทหาร สารทำลายพืชอาจถูกนำมาใช้ในพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ฐานการตั้งรับแบบวงรอบเพื่อช่วยในการถากถางพื้นการยิงและการตรวจการณ์ สารเคมีดังกล่าวแล้วนี้จะมีอำนาจในการทำลายผลผลิตที่เป็นอาหาร และทำให้เกิดการร่วงหล่นของใบไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม กองทัพสหรัฐ ฯ จะไม่ใช้สารทำลายพืชในหนทางปฏิบัตินี้ นอกจากว่าฝ่ายตรงข้ามจะนำมาใช้ปฏิบัติการต่อกำลังทหารของสหรัฐ ฯ และผู้นำของสหรัฐ ฯ ได้สั่งการอนุมัติให้มีการใช้ เพื่อตอบโต้อย่างรุนแรง
ข – ๔ สารปราบจลาจล
กองทัพสหรัฐ ฯ จะปฏิเสธการใช้สารปราบจลาจลในอันดับแรกของการทำสงคราม ยกเว้นการใช้เพื่อการป้องกันและสงวนรักษาชีวิตของกำลังพล การใช้สารปราบจลาจลจะไม่ถูกจัดอยู่ในนโยบายเช่นเดียวกับการใช้สารเคมี ทั้งนี้เนื่องจากสารปราบจลาจลไม่ได้ถูกใช้เพื่อทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และผลการใช้ของมันก็มีอยู่ในห้วงระยะเวลาสั้น ๆ และจะต้องมีการพิจารณาเมื่อเกิดสถานการณ์ว่าการใช้สารปราบจลาจลจะมีความเหมาะสมมากกว่าการใช้อาวุธตามแบบ (ดูรายละเอียดใน รส.๓ – ๑๐๐)
ก. ตัวเปลือก สป.๕ ที่ใช้บรรจุสารปราบจลาจล ได้แก่ ลูกระเบิดขว้าง และกระสุนบรรจุสารเคมีขนาด ๔๐ มม. (กระสุนของ ค.เอ็ม ๒๐๓) เมื่อนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขว้างหรือการยิงลูกระเบิด จะต้องใช้จากทิศทางเหนือลม เพื่อป้องกันมิให้ไอระเหยจากสารเคมีลอยออกจากเป้าหมาย หรือย้อนกลับมาหาตัวผู้ใช้
ข. การใช้สารปราบจลาจลโดยทั่วไปจะประกอบด้วย สารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อปอด และทำให้มีน้ำตาไหลออกมา สารปราบจลาจลนี้จะถูกใช้เพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายก่อความไม่สงบต้องออกมาจากอุโมงค์, ถ้ำ และตัวอาคาร โดยฝ่ายเรามุ่งหวังที่จะจับกุม เมื่อกำลังฝ่ายปราบปรามการก่อความไม่สงบได้พบพื้นที่ซุ่มซ่อนที่น่าจะเป็นไปได้ ก็อาจนำสารปราบจลาจลมาใช้เพื่อให้ฝ่ายก่อความไม่สงบยอมจำนนและถูกจับกุม
ค. เมื่อกำลังของหน่วยปราบปรามการก่อความไม่สงบอยู่ในที่มั่นตั้งรับ ก็อาจใช้การจุดระเบิดสารปราบจลาจลที่มีลักษณะเป็นผง โดยใช้เครื่องควบคุมการจุดจากระยะไกลได้
ง. กำลังพลของหน่วยปราบปรามจะสวมหน้ากากป้องกัน และมีเครื่องปกปิดป้องกันผิวหนังนอกเสื้อผ้า เมื่อใช้สารปราบจลาจล และภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จะต้องใช้การชำระล้างพิษที่ตกค้างหรือติดอยู่ตามบริเวณผิวหนัง ด้วยการแปรงและซักล้างเสื้อผ้า
ผนวก ค
การปฏิบัติการ และเทคนิค
ใน ผนวก ค นี้จะแสดงเทคนิควิธีการที่อาจนำมาใช้เมื่อต้องเข้าปฏิบัติการทางยุทธวิธีทั่วไปที่ใช้ในการปราบปรามการก่อความไม่สงบ ตาราง ค – ๑ จะแสดงให้เห็นรูปแบบของการปฏิบัติการทั่วไป และเทคนิคที่กองกำลังฝ่ายปราบปรามได้นำมาใช้ การปฏิบัติการขนาดใหญ่นั้นจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการก่อความไม่สงบหรือการกบฏแต่ยุทธวิธีของหน่วยทหารขนาดเล็กเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดของฝ่ายเราที่จะใช้ได้ในทุกขั้นตอน(ดูรายละเอียดใน รส.๗–๗, ๗-๘, ๗ - ๑๐, ๗ - ๒๐, ๗ - ๓๐, ๗๑ - ๑, ๗๑ - ๒ และ ๗๑ - ๓)
ตอนที่ ๑
การปฏิบัติการ
ด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราก็สามารถนำเอาการปฏิบัติการตามที่ได้อธิบายไว้ใน รส.๗ – ๑๐, ๗ - ๒๐, ๗๑ - ๑ และ ๗๑ - ๒ มาใช้ในการต่อต้านและปราบปรามกองโจรได้ การปฏิบัติการดังกล่าว ได้แก่ การตีโฉบฉวย, การเคลื่อนที่เข้าปะทะ, การเข้าตีเร่งด่วน, การเข้าตีประณีต, การลาดตระเวนด้วยกำลัง, การขยายผล และการไล่ติดตาม
ค – ๑ การโอบล้อม
การโอบล้อมเป็นวิธีการที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ตัดเส้นทางหลบหนี และการเพิ่มเติมกำลังทางภาคพื้นดินของฝ่ายก่อความไม่สงบที่อยู่ในวงล้อม การโอบล้อมจะทำให้ฝ่ายก่อความไม่สงบต้องถูกตรึงกำลังอยู่กับที่และฝ่ายปราบปรามจะสามารถปฏิบัติการให้ได้ผลลัพธ์ขั้นแตกหัก หน่วยระดับกองพันหรือใหญ่กว่าอาจเลือกใช้วิธีการนี้ปฏิบัติต่อฝ่ายข้าศึก
ก. หน่วยระดับกองร้อยและเล็กกว่า มักจะมีกำลังพลไม่พอเพียงและขาดขีดความสามารถในการควบคุม และบังคับบัญชาที่จะปฏิบัติการโอบล้อม (ยกเว้นจะเข้าปฏิบัติต่อกำลังฝ่ายข้าศึกที่มีขนาดเล็กกว่ามาก) หน่วยรองหลักต่าง ๆ ของกรมสามารถที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการโอบล้อมภายในกรอบของหน่วยที่ใหญ่กว่า
ข. การวางแผน, การเตรียมการ และการปฏิบัติ จะมีจุดมุ่งเข้าโอบล้อมฝ่ายข้าศึกในทุกทิศทาง การระวังป้องกันและการจู่โจมจะบังเกิดผลได้ด้วยการเข้าปฏิบัติการโอบล้อมให้แล้วเสร็จภายในเวลาค่ำมืด
ค. การเคลื่อนที่เข้าโอบล้อมจะต้องปฏิบัติด้วยความรวดเร็ว การใช้การยุทธเคลื่อนที่โจมตีทางอากาศ และหน่วยทหารราบส่งทางอากาศ สามารถสร้างจังหวะความเร็วและการจู่โจมได้ในขั้นแรกของการโอบล้อม ตำบลต่าง ๆ จะถูกยึดภายในเวลาเดียวกันและปิดกั้นเส้นทางหลบหนี แต่ถ้าหากไม่สามารถเข้ายึดตำบลต่าง ๆ ภายในเวลาเดียวกันได้ ก็จะต้องพิจารณาเข้ายึดครองบริเวณที่ข้าศึกน่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีก่อนเป็นอันดับแรก การเข้ายึดครองในขั้นแรก จะเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดของการโอบล้อม หากฝ่ายข้าศึกได้มีการไหวตัวหรือได้รับข้อมูลข่าวสารล่วงหน้า ก็อาจใช้วิธีการตอบโต้อย่างฉับพลัน และพยายามเจาะช่องว่าง หรือการเข้าโจมตีต่อฝ่ายเราในจุดที่อ่อนแอเพื่อเจาะ ช่องว่าง
ง. หน่วยที่เข้าทำการยึดตำบลต่าง ๆ ในการโอบล้อม จะต้องวางการลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างแข็งแรงไปข้างหน้า เพื่อที่จะได้แจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วต่อการพยายามเจาะช่องของฝ่ายข้าศึก และกำลีงของหน่วยลาดตระเวนเฝ้าตรวจจะถูกใช้เพื่อปิดกั้นเส้นทางหลบหนี กองหนุนเคลื่นที่เร็วจะต้องถูกวางไว้ในตำบลที่สามารถเคลื่อนที่อย่างฉับพลัน เพื่อต่อต้านความพยายามในการหักวงล้อม และเพื่อที่จะสามารถเข้าเสริมในจุดที่เป็นภูมิประเทศที่ยากลำบาก เช่น ร่องลึก หรือพื้นที่ที่มีถ้ำหรืออุโมงค์
จ. การยิงสนับสนุนด้วยการเล็งจำลอง สามารถใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของข้าศึก จากการเข้าโอบล้อมของฝ่ายเรา ขณะที่กำลังของฝ่ายเราเคลื่อนที่เข้าสู่ตำบลต่าง ๆ การยิงสนับสนุนทั้งหมดรวมทั้งการยิงของปืนใหญ่ จะต้องถูกวางแผนไว้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อสนับสนุนการเข้าโอบล้อมภายหลังจากที่ฝ่ายข้าศึกได้รู้ตัวแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น